01/08/2025
Environment
Wastegetable Farm โมเดลพัฒนาสวนผักบนดาดฟ้าจากศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน ช้อปปิ้งพลาซ่า
อดิศักดิ์ กันทะเมืองลี้ ภัทรนันท์ ด้วงสุข

ขยะทิ้งแล้วไปไหน ถ้าไม่ถูกกำจัด?
ขยะพลาสติกหลายประเภทอย่าง ขวดน้ำ ถุงพลาสติก หรือกล่องนม มักถูกนำไปรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ แต่สำหรับขยะเศษอาหาร ซึ่งย่อยสลายง่ายและไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้ทันที หากปล่อยทิ้งไว้ก็อาจกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเปลี่ยนขยะเหล่านี้ให้กลายเป็นของมีค่า เช่น ‘ผัก’ ที่เรากินได้?
จากบทความครั้งก่อนได้พาไปรู้จักกับคุณปารีณา หนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่ม Bangkok Rooftop Farming ที่ผลักดันการปลูกผักบนดาดฟ้าด้วยการแปรรูปขยะอาหารให้เป็นปุ๋ย สร้างอาหารจากสิ่งที่เคยถูกมองว่าไร้ค่า ทั้งยังช่วยจุดประกายให้องค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคเอกชนหันมาใส่ใจเรื่องการจัดการขยะควบคู่กับการทำเกษตรในเมือง
วันนี้ The Urbanis จะพาผู้อ่านไปรู้จักกับอีกหนึ่งความร่วมมือระหว่าง Bangkok Rooftop Farming และ ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน ช้อปปิ้งพลาซ่า ผ่านมุมมองของ คุณรัชพล ไกรจิรโชติ กรรมการผู้จัดการศูนย์การค้า ที่มองเห็นโอกาสในการเปลี่ยนขยะอาหารให้กลายเป็น ‘ผัก’ ที่รับประทานได้จริง เป็นการเพิ่มมูลค่าจากของเสีย สู่ประโยชน์ที่จับต้องได้ในชีวิตประจำวัน
จุดเริ่มต้นสวนผักดาดฟ้าของศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน ช้อปปิ้ง พลาซ่า

โครงการสวนผักบนดาดฟ้าของศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน เริ่มต้นจากความตั้งใจในการลดปริมาณขยะเศษอาหารภายในศูนย์ฯ โดยการติดตั้งเครื่องหมักเศษอาหารบนดาดฟ้า หวังว่าจะสามารถเปลี่ยนขยะให้เป็นปุ๋ย และนำแก๊สชีวภาพที่ได้มาใช้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ก็พบกับความท้าทายอย่างการที่แก๊สมีน้ำหนักเบาและลอยตัวขึ้นสูงเกินไป ทำให้ไม่สามารถนำมาใช้งานในพื้นที่ศูนย์การค้าได้ และปุ๋ยที่ได้จากการหมักอยู่ในรูปของเหลวคล้ายโคลน ซึ่งสถานที่ไม่มีความพร้อมในการกักเก็บหรือใช้งานต่อ
แม้จะพยายามส่งต่อของเหลวที่ได้ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ นำไปใช้ปลูกต้นไม้ แต่กลับไม่มีใครรับไปใช้ อีกทั้งคนในองค์กรเองก็ยังขาดความรู้ด้านการปลูกพืช จึงเริ่มมองหาวิธีใช้ประโยชน์จากของเหลวเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด

จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อทางศูนย์การค้าฯ ได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานที่สำนักงานเขตหลักสี่ ซึ่งมีการทำสวนผักบนดาดฟ้า และได้รับคำแนะนำจากคุณปารีณา Bangkok Rooftop Farming ว่าสามารถต่อยอดให้กลายเป็นแปลงผักที่ใช้งานได้จริงบนพื้นที่ดาดฟ้าได้
แม้จุดเริ่มต้นจะไม่ได้มาจากความตั้งใจทำเกษตรโดยตรง แต่โครงการนี้กลับกลายเป็นการผสาน “การจัดการขยะอาหาร” เข้ากับ “การทำเกษตรในเมือง” อย่างลงตัว ด้วยเป้าหมายเพื่อสร้างระบบจัดการที่ยั่งยืน ลดการฝังกลบ และเพิ่มคุณค่าให้กับเศษอาหารที่เคยไร้ค่า
การทำสวนผักบนดาดฟ้าจึงไม่ใช่แค่การสร้างพื้นที่สีเขียวในเมืองเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาขยะอย่างเป็นระบบ และเป็นต้นแบบที่สามารถปรับใช้ได้กับองค์กรหรือสถานที่อื่น ๆ โดยอิงกับบริบทของแต่ละพื้นที่
ตลอดระยะเวลาที่ทำตรงนี้มา คิดว่าความท้าทายในแง่ของการบริหารจัดการคืออะไร ?
คุณรัชพลเล่าว่า หลังจากได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสวนผักบนดาดฟ้า ปัญหาแรกที่พบคือ คนในองค์กรยังไม่มีความรู้เรื่องการปลูกผัก จึงตัดสินใจร่วมมือกับกลุ่ม Bangkok Rooftop Farming เพื่อช่วยวางระบบและดูแลการปลูกอย่างมีแบบแผน โดยได้รับการสนับสนุนจากศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน ทั้งในด้านการจัดหาเครื่องหมักเศษอาหาร การเตรียมพื้นที่ปลูก การสร้างโรงเรือนและกระบะดิน ซึ่งล้วนต่อยอดจากแปลงผักเดิมที่เคยทดลองแบบลองผิดลองถูก พร้อมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรเข้ามาให้คำแนะนำต่อเนื่องยาวนานกว่า 3 ปี

สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า การเริ่มต้นด้วยความตั้งใจและมีการสนับสนุนอย่างเหมาะสม เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อได้อย่างยั่งยืน ลดภาระการลองผิดลองถูก และช่วยจุดประกายให้คนในทีมอยากมีส่วนร่วมมากขึ้น ลองนึกภาพออฟฟิศที่จัดโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ เก้าอี้นั่งสบาย มีเครื่องมือพร้อมใช้งาน ทุกอย่างล้วนเอื้อต่อการทำงานและสร้างแรงบันดาลใจ เช่นเดียวกับสวนผักบนดาดฟ้าแห่งนี้ ที่ศูนย์การค้าได้วางโครงสร้างพื้นฐานไว้อย่างเหมาะสม ขณะที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ผู้มีใจรักการเกษตรก็ลงมือพัฒนาแปลงผักด้วยแรงกายแรงใจอย่างเต็มที่
ทั้งหมดนี้คือภาพของความร่วมมือที่ลงตัว ระหว่างคนลงมือทำกับสภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุน ทำให้ “สวนผักบนดาดฟ้า” กลายเป็นโครงการที่เกิดขึ้นจริง และอาจกลายเป็นแรงบันดาลใจให้หลายพื้นที่ลุกขึ้นมาทำตาม
เป้าหมายการทำเกษตรบนสวนดาดฟ้าที่มากกว่าการจัดการขยะ
ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วันมุ่งมั่นพัฒนาสวนผักบนดาดฟ้าด้วยเป้าหมายหลักคือ ลดขยะเศษอาหาร และ เปลี่ยนของเหลือใช้ให้กลายเป็นอาหารที่บริโภคได้จริง โดยต่อยอดผลผลิตให้สามารถนำออกจำหน่าย พร้อมทั้งพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านเกษตรในเมือง ที่เปิดกว้างสำหรับทุกคนแนวคิดนี้สอดคล้องกับทิศทางของกลุ่ม Bangkok Rooftop Farming ที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้จากการลงมือทำจริง ศูนย์การค้าจึงตั้งเป้าหมายให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงองค์ความรู้เรื่องการปลูกผักได้ง่าย เสริมสร้างทักษะและศักยภาพในการเพาะปลูก เพื่อให้การทำเกษตรในเมืองไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็สามารถเริ่มต้นและทำได้ด้วยตัวเอง
กระบวนการทำงานร่วมกันระหว่างศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน กับ bangkok rooftop farming

หนึ่งในภารกิจสำคัญของศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วันในการพัฒนาสวนผักบนดาดฟ้าคือ การจัดการขยะต้นทางอย่างมีระบบ โดยร่วมมือกับร้านค้าและลูกค้าในการแยกเศษอาหารออกจากขยะประเภทอื่น เช่น เศษผักจากร้านอาหารจะถูกแยกเก็บไว้ในถังเฉพาะ และเมื่อรวบรวมได้เพียงพอ จะถูกนำขึ้นไปสู่ดาดฟ้าเพื่อเข้าสู่กระบวนการหมักต่อไป
จากจุดนี้ กลุ่ม Bangkok Rooftop Farming จะเข้ามาดูแลการเปลี่ยนเศษอาหารเหล่านั้นให้กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์สำหรับสวนผักบนดาดฟ้า โดยมีการพัฒนาจากระบบเดิม มาใช้เครื่องหมักรุ่นใหม่ที่สามารถผสมเศษอาหารเข้ากับดินได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ย่อยสลายเป็นของเหลวก่อน ทำให้กระบวนการจัดการรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ต่อการเพาะปลูกได้ทันที
เศษอาหารที่เคยเป็นขยะไร้ค่า กลายเป็นปุ๋ยคุณภาพที่หล่อเลี้ยงแปลงผักให้เติบโตแข็งแรง เป็นการหมุนเวียนทรัพยากรที่ช่วยลดปริมาณขยะ สร้างผลผลิตปลอดภัย และส่งต่อประโยชน์ให้ทั้งศูนย์การค้า ผู้ปลูก และผู้บริโภค
ความร่วมมือระหว่างศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วันและกลุ่ม Bangkok Rooftop Farming ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแบ่งปันทรัพยากรหรือพื้นที่เท่านั้น แต่ยังเกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ทักษะ และเครือข่าย จนกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ “เติบโตไปพร้อมกัน” และสามารถขยายผลสู่สังคมในวงกว้างอย่างแท้จริง
ความคาดหวังในอนาคตต่อสวนผักดาดฟ้า
ปัจจุบัน ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วันสามารถดำเนินการจัดการขยะภายในศูนย์ฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีร้านอาหารเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่มีเพียงศูนย์อาหารเป็นผู้เริ่มต้น ขยะเศษอาหารที่ได้มีปริมาณเพียงพอสำหรับนำมาใช้ผลิตปุ๋ย เพื่อหล่อเลี้ยงสวนผักบนดาดฟ้าและผลักดันให้โครงการดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง
นอกจากการจัดการขยะและการเพาะปลูกแล้ว ทางศูนย์การค้ายังตั้งเป้าที่จะขยายผลในวงกว้าง ทั้งในแง่ของการถ่ายทอดความรู้และการต่อยอดเป็นพื้นที่ธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้จากผลผลิตผักปลอดภัยที่มีความสม่ำเสมอ พร้อมจำหน่ายสู่ตลาด
ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วันหวังว่า โมเดลการจัดการขยะและการเกษตรบนดาดฟ้าจะสามารถขับเคลื่อนไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นในภาคธุรกิจ อาคารสำนักงาน หรือแม้แต่ในระดับครัวเรือน เพราะแม้จะมีพื้นที่ไม่มาก แค่เพียงมีดาดฟ้าหรือมุมเล็ก ๆ ก็สามารถเริ่มต้นปลูกผักและจัดการขยะได้
คุณรัชพลกล่าวว่า ปัจจุบันทีมขับเคลื่อนสวนผักดาดฟ้ามีองค์ความรู้ที่สามารถถ่ายทอดต่อได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการจุดประกายให้ผู้คนเริ่มต้น เพราะหลายคนไม่กล้าลงมือทำเพราะขาดความรู้ หรือไม่อยากลองผิดลองถูก หากมีการส่งต่อทั้งความรู้เชิงทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จะช่วยกระตุ้นแรงบันดาลใจให้คนกล้าปลูกผักมากขึ้น

สุดท้าย โมเดลนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงแนวทางการจัดการขยะเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างอาหารปลอดภัย การสร้างรายได้ และการฟื้นความเชื่อมโยงระหว่างคนกับธรรมชาติในพื้นที่เมือง
การทำสวนผักบนดาดฟ้าของศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มมูลค่าให้กับขยะเศษอาหารที่ถูกเปลี่ยนเป็นปุ๋ยและนำมาใช้ในการเพาะปลูกเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหารในเมือง ผลผลิตจากแปลงผักเหล่านี้สามารถบริโภคได้จริง และเป็นส่วนหนึ่งของการป้อนสู่ท้องตลาดอย่างยั่งยืน
สิ่งสำคัญที่ทำให้แนวคิดนี้เป็นจริงได้ คือความร่วมมือระหว่างบุคคลและหน่วยงานที่มีเป้าหมายร่วมกันในการขับเคลื่อนเมืองให้มีระบบจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการผลิตอาหารปลอดภัย หากแนวคิดนี้แพร่หลายออกไป ก็สามารถปรับใช้ได้ในหลายพื้นที่และตอบโจทย์ได้หลากหลายบริบทของเมือง
ปัญหาขยะอาหารในสังคมเมืองจะไม่สามารถคลี่คลายได้ หากไม่มีความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วันถือเป็นตัวอย่างของภาคเอกชนที่ลุกขึ้นมาสร้างการเปลี่ยนแปลง ด้วยการบูรณาการระบบจัดการขยะเข้ากับแนวทางเกษตรในเมืองอย่างเป็นระบบ
แนวทางนี้ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะ แต่ยังเปิดพื้นที่ให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างองค์กร หน่วยงาน และประชาชน ทั้งในด้านทรัพยากร ความรู้ และการลงมือปฏิบัติจริง ที่สำคัญคือโมเดลนี้สามารถขยายผลได้ในหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นครัวเรือน สถานศึกษา หรือชุมชน เพราะทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการเปลี่ยน “ขยะ” ให้กลายเป็น “คุณค่า” เพื่อสร้างเมืองที่น่าอยู่และยั่งยืนไปด้วยกัน
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะด้วยแนวคิดเกษตรในเมือง: กลไกบูรณาการเชิงนโยบายเพื่อสร้างพื้นที่สุขภาวะ และพื้นที่ส่งเสริมความมั่นคงและความปลอดภัยทางอาหารของกรุงเทพมหานคร ดำเนินการโดยศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์เมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (UDDC-CEUS) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)