Environment



สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กับบทบาทในการขับเคลื่อนเกษตรในเมือง

24/10/2025

เกษตรในเมืองได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นทั้งในระดับนโยบายและการปฏิบัติจริง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร ซึ่งเผชิญกับข้อจำกัดด้านพื้นที่ ความหนาแน่นของประชากร และปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม สวนสาธารณะ พื้นที่ว่าง แม้แต่พื้นที่ระเบียงคอนก็เป็นกลายเป็นพื้นที่ศักยภาพในการสร้างระบบอาหารในระดับชุมชน ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร และสุขภาวะของคนเมือง วันนี้ The Urbanis ชวนชาวเมืองพูดคุยคุณประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เพื่อสะท้อนบทบาทเชิงนโยบาย แนวทางการดำเนินงาน และข้อเสนอเชิงระบบในการขับเคลื่อนเกษตรในเมืองภายใต้บริบทของกรุงเทพมหานคร ศักยภาพและบทบาทของสำนักสิ่งแวดล้อมในการสนับสนุนเกษตรในเมือง สำนักสิ่งแวดล้อมมีบทบาทสำคัญในฐานะหน่วยงานที่มีองค์ความรู้เชิงวิชาการเกี่ยวกับพืช และการขยายพันธุ์อย่างครอบคลุม โดยมีทั้งฝ่ายวิชาการ ฝ่ายปลูก และฝ่ายขยายพันธุ์ไม้ ซึ่งทำให้การส่งเสริมการปลูกพืชผักสวนครัวในพื้นที่สาธารณะและที่อยู่อาศัยของประชาชนมีความพร้อมในเชิงองค์ความรู้และทรัพยากรกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การออกบูธ แจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ และเผยแพร่ผลิตภัณฑ์จากสวน เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยกระจายแนวคิด “สวนกินได้” ไปสู่ประชาชน โดยเฉพาะในบริบทของการส่งเสริมพื้นที่สีเขียวขนาดเล็กในที่อยู่อาศัย เช่น การปลูกผักในกระถางบริเวณระเบียงคอนโดฯ ซึ่งแม้จะดูเล็กน้อยในเชิงปริมาณ แต่ส่งผลเชิงคุณค่าและพฤติกรรมในระยะยาว จุดเริ่มต้นจากภายในองค์กร สู่การขยายผลเชิงระบบ แนวคิดในการนำเกษตรเข้าสู่พื้นที่สวนสาธารณะ เริ่มต้นจากความต้องการของเจ้าหน้าที่สวนที่ต้องการปลูกพืชผักเพื่อบริโภคเองในชีวิตประจำวัน ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของพื้นที่และทรัพยากรที่มีอยู่ภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ว่าง เมล็ดพันธุ์ หรือแรงงาน ส่งผลให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความมั่นคงทางอาหารในระดับปัจเจก นอกจากนี้ การปลูกพืชโดยไม่ใช้สารเคมียังสะท้อนถึงเป้าหมายด้านความปลอดภัยทางอาหาร ซึ่งสามารถเป็นต้นแบบสำหรับการขยายผลในระดับเมืองได้อย่างเป็นระบบ โอกาสและศักยภาพในการพัฒนา แม้จะมีศักยภาพด้านองค์ความรู้และทรัพยากร แต่สำนักสิ่งแวดล้อมยอมรับว่าการประชาสัมพันธ์และการเข้าถึงประชาชนยังเป็นข้อจำกัดที่สำคัญ […]

สวนผักบำบัดจิต เกษตรในเมืองกับการฟื้นฟูจิตใจผู้ป่วย

22/10/2025

“ผมเชื่อว่าการบำบัดคนไข้ด้วยกระบวนการทำเกษตรจะมีส่วนช่วยทำให้คนไข้พัฒนาตัวเองจากการทำสิ่งที่มีคุณค่า ซึ่งจะทำให้เขารู้สึกว่าเขาก็มีคุณค่าเหมือนกัน” แนวคิดเกษตรในเมือง ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์ในเรื่องของการส่งเสริมความมั่นคง ความปลอดภัยทางอาหาร แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ใช้ส่งเสริมประโยชน์ทางสุขภาพ เสริมสร้างทักษะการพัฒนาจิตใจของผู้คน  ในบทความนี้ The Urbanis จึงอยากเชิญชวนทุกคนมาร่วมอ่านการใช้เกษตรในเมืองเป็นเครื่องมือในการบำบัดผู้ป่วยจิตเวชในประเทศไทย กับ นพ.วีรพล อุณหรัศมี รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กับการทำเกษตรในเมือง สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา เป็นโรงพยาบาลจิตเวชแห่งแรกในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้น พ.ศ. 2432 ในอดีตศาสตราจารย์หลวงวิเชียรแพทยาคม หรือนายแพทย์เถียร ตูวิเชียร ได้นำแนวคิดการทำเกษตรเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำอุตสาหกรรมบำบัด หรือ อาชีวบำบัด เพื่อบำบัดคนไข้จิตเวช  ต่อมาในช่วง พ.ศ. 2556 ทางโรงพยาบาลได้มีการทำสวนบำบัดผ่านโครงการฟื้นฟูศักยภาพทางสังคม จิตใจ สำหรับผู้ป่วยจิตเวช โดยกลุ่มงานสังคมสงเคราะห์ สถาบันจิตเวชศาสตร์ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ป่วยทางจิตเวชที่อยู่ในช่วงพักฟื้น เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยจิตเวชให้มีความสามารถในการดูแลตัวเอง และสามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้ เกษตรในเมืองกับการบำบัดผู้ป่วย การบำบัดผู้ป่วยทางจิตเวชด้วยเกษตรในเมือง เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้คนไข้จิตเวชใช้ชีวิตได้ดีขึ้น เพื่อให้คนไข้สามารถมีทักษะการใช้ชีวิตในสังคม มีความเด็ดขาด ความภาคภูมิใจในสิ่งที่ได้ทำ และมีความสามารถในการใช้ชีวิตให้มีประสิทธิภาพ มากไปกว่านั้น หากเป็นไปได้ถึงขั้นสามารถทำให้ได้ผลผลิตทางการเกษตร สร้างมูลค่ากับสิ่งนั้นและตอบสนองกับสังคม เกิดการซื้อขายได้ จะทำให้เขามีอาชีพ สังคมให้การยอมรับ อันจะมีผลในทางบวกทั้งต่อสังคม […]

จุดเริ่มต้นฟาร์มสร้างสุขของรามาธิบดีต้นแบบเกษตรอินทรีย์เพื่อสุขภาพ

17/10/2025

“อาหาร เป็นต้นทางของโรคทั้งหลาย”  คำกล่าวนี้ของ คุณนรีมาลย์ นีละไพจิตร สะท้อนถึงแนวคิดเบื้องหลังโครงการฟาร์มสร้างสุข รามาธิบดี ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นต้นทางของการดูแลสุขภาพผ่านอาหารที่ปลอดภัย โดยตั้งอยู่ที่คลอง 13 จังหวัดปทุมธานีบนพื้นที่กว่า 30 ไร่ The Urbanis ขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ ฟาร์มสร้างสุข รามาธิบดี โครงการที่เริ่มต้นในปี2555 เกิดจากวิสัยทัศน์ของคณะผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่เล็งเห็นว่าปัญหาสุขภาพเรื้อรังจำนวนมากมีสาเหตุมาจากอาหารที่ไม่เหมาะสมผ่านมุมมองของ คุณนรีมาลย์ นีละไพจิตร แปลงเกษตรสู่เส้นทางโรงพยาบาลแห่งการพัฒนา ฟาร์มสร้างสุขเลือกใช้ แนวทางเกษตรอินทรีย์ ในการเพาะปลูกผักและผลไม้เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับอาหารที่ปลอดภัย ปราศจากสารเคมีตกค้าง โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส และความร่วมมือจากปราชญ์ชาวบ้าน ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาดินและการเกษตรยั่งยืน แม้ว่าจะมีพื้นที่เพาะปลูก 30 ไร่ แต่พื้นที่ที่สามารถใช้ปลูกพืชได้จริงมีเพียง 17 ไร่ ทำให้ผลผลิตจากฟาร์มสนับสนุนวัตถุดิบแก่โรงพยาบาลได้เล็กน้อย ความท้าทายอีกอย่างคือมาตรฐานของวัตถุดิบต้องให้เหมาะสมกับข้อกำหนดในด้านโภชนาการของโรงพยาบาล และการแข่งขันด้านราคาในระบบจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งทำให้ฟาร์มต้องขยายความร่วมมือกับเครือข่ายเกษตรกรเพิ่ม พลังงานหมุนเวียนและเศรษฐกิจหมุนเวียน นอกเหนือจากการเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัย ฟาร์มสร้างสุขยังให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยมีโครงการ ผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชใช้แล้ว เพื่อนำกลับมาใช้เป็นพลังงานในระบบของฟาร์มและลดปัญหาการนำน้ำมันใช้แล้วกลับไปใช้ซ้ำๆ ในแบบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค โครงการนี้ได้ร่วมมือจากทีมของสาธารณสุขอำเภอและร้านค้าในชุมชน เพื่อรวบรวมน้ำมันพืชที่ใช้แล้วจากร้านอาหารและครัวเรือน แล้วนำไปผ่านกระบวนการแปรรูปให้กลายเป็นพลังงานหมุนเวียน ขยายแนวคิดสู่ชุมชนและอนาคตของฟาร์มสร้างสุข ฟาร์มสร้างสุขไม่ได้เป็นเพียงแค่พื้นที่ผลิตอาหารอินทรีย์เท่านั้น […]

สวนผักคนเมืองกับเส้นทางสู่ความมั่นคงทางอาหารและเมืองที่ดีขึ้น

17/09/2025

จุดเริ่มต้นของ “สวนผักคนเมือง” อาจดูเหมือนเพียงการส่งเสริมให้คนปลูกผักในพื้นที่จำกัดของเมือง แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังคือประสบการณ์กว่า 30 ปีของการขับเคลื่อนเรื่องเกษตรกรรมยั่งยืน ผ่านเครือข่าย NGO ที่เติบโตมาตั้งแต่ยุคปฏิวัติเขียว เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกที่พี่สุภา พี่วิฑูรย์ และนักกิจกรรมรุ่นบุกเบิกได้ร่วมกันรวบรวมภูมิปัญญาชาวบ้านและระบบเกษตรผสมผสานเพื่อท้าทายแนวคิดการผลิตเชิงเดี่ยวในยุคนั้น วันนี้ The Urbanis จะขอพาชาวเมืองทุกท่านไปพูดคุยกับ คุณวรางคนางค์ นิ้มหัตถา หัวหน้าโครงการสวนผักคนเมือง มูลนิธิเกษตรกรรม โดยเริ่มต้นจากมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในฐานะสถาบันทางวิชาการเพื่อขับเคลื่อนองค์ความรู้เชิงระบบ ต่อมาในปี 2553 เมื่อประเด็น “ความมั่นคงทางอาหาร” เริ่มถูกพูดถึงในมิติของคนเมือง มูลนิธิจึงได้รับทุนจาก สสส. และริเริ่มโครงการ “สวนผักคนเมือง” โดยตั้งโจทย์สำคัญว่า “คนเมืองจะเข้าถึงอาหารปลอดภัยได้อย่างไร?” จากผักในกระถาง สู่เครื่องมือเปลี่ยนเมือง สวนผักคนเมืองไม่ได้หยุดอยู่ที่การปลูกผักในพื้นที่จำกัด แต่ขยายขอบเขตความคิดสู่การมอง “เกษตรในเมือง” เป็นกลไกหนึ่งของ “เมืองที่ยั่งยืน” ด้วยยุทธศาสตร์ 4 ด้านหลัก ได้แก่ การเผยแพร่แนวคิดและความรู้เรื่องเกษตรในเมือง การสร้างศูนย์เรียนรู้และนวัตกรรมเกษตรที่เหมาะกับพื้นที่เมือง การผลักดันเชิงนโยบาย การขยายผลสู่ชุมชนกลุ่มเปราะบาง “เกษตรในเมืองไม่ใช่แค่เรื่องอาหาร แต่มันคือการออกแบบเมืองใหม่ ที่ให้พื้นที่สีเขียว พื้นที่สุขภาพ พื้นที่ทางสังคม เกิดขึ้นในทุกตารางเมตรของเมือง” นักขับเคลื่อนกล่าว […]

เมือง-ชนบท และความหลากหลายของชีววิถี BIOTHAI

15/09/2025

เมืองไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเรื่องความมั่นคงด้านอาหาร และเมืองไม่สามารถอยู่ได้ถ้าขาดภาคเกษตรกรรมเป็นผู้ผลิตอาหาร การทำเกษตรจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เมืองสามารถพึ่งพาตนเองได้ จากบทความครั้งที่แล้วที่พาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับจริงใจมาร์เก็ตเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาเกษตรกรท้องถิ่น สร้างมาตรฐานสินค้าที่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค และผลักดันแนวทางการเกษตรที่ยั่งยืน จากลุ่มเซ็นทรัล ผู้ให้ความสำคัญกับการสร้างชุมชนของเกษตรกรและผู้บริโภค และการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ครั้งนี้ The Urbanis พาไปพูดคุยกับคุณวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ จากมูลนิธิชีววิถี หรือ BIOTHAI เครือข่ายของกลุ่มบุคคล ที่ทำงานเกี่ยวกับประเด็นความหลากหลายทางชีวภาพ และ ภูมิปัญญา ท้องถิ่นในประเทศไทย มูลนิธิชีววิถี หรือ BIOTHAI มูลนิธิชีววิถี หรือ BIOTHAI ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2538 โดยเริ่มต้นจากประเด็นความหลากหลายทางชีวภาพ ต่อมาจึงขยายเรื่องของเกษตรเชิงนิเวศ หลังปี 2551 เกิดวิกฤตอาหารระดับทั่วโลก ไบโอไทยจึงขยายงานในด้านความมั่นคงทางอาหาร การทำงานในช่วงแรกเน้นการพูดถึงชุมชนในชนบท ทำงานกับชาวนา กลุ่มชุมชนท้องถิ่นในทุกระดับของประเทศ หลังจากปี 2551 เป็นต้น Biothai เริ่มให้ความสำคัญกับชุมชนเมืองมากขึ้น และปัจจุบันได้เชื่อมโยงกับเครือข่ายที่ทำงานกับเด็ก เยาวชน หรือชุมชนในเมือง เช่น มูลนิธิไชยก้าวไกลก็ทำงานกับหลายชุมชนในเขตเมือง ปริมณฑล รวมถึงทำงานกับมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว พื้นที่กรุงเทพมหานครที่สามารถทำเกษตรได้  กรุงเทพฯ ยังมีพื้นที่ศักยภาพอีกมากที่สามารถพัฒนาให้เกิดประโยชน์ คุณวิฑูรย์ […]

มหานครและเกษตรกรรม กับความเป็นไปได้ที่ต้องออกแบบร่วมกัน

12/09/2025

เมืองในนิยามของทุกคนเป็นแบบไหน? เมืองสีเขียว เมืองที่เทคโนโลยีก้าวหน้า หรือเมืองที่มีทั้งสองอย่างรวมอยู่ด้วยกัน และอะไรช่วยให้เมืองในแบบที่เรานิยามเป็นจริง? เริ่มจากตัวเราเอง การส่งเสริมนโยบายและการจัดการที่ดีจากภาครัฐ หรือทุกอย่างต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกันจึงจะสำเร็จ จากบทความที่แล้ว ผู้อ่านคงได้รู้จักกับ “ครูองุ่น มาลิก” ผู้ให้ของสังคมที่มีจุดเริ่มต้นจากความชอบในการทำงานด้านสังคม จนนำไปสู่การเปิดพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนได้เข้าไปใช้บริการโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน  บทความนี้ The Urbanis จะพาทุกคนไปพูดคุยกับ รศ.ดร.อลิศรา มีนะกนิษฐ อาจารย์ประจำคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถึงนิยามของคำว่า “เกษตรในเมือง” และสถานการณ์ปัจจุบันของการทำเกษตรในกรุงเทพมหานคร เกษตรในเมืองคืออะไร? เริ่มต้นจากคำว่า “เกษตรกรรม” ซึ่งหมายถึงกระบวนการผลิตที่ไม่ใช่แค่การเพาะปลูก หรือเลี้ยงสัตว์เพื่อผลิตอาหาร แต่ยังครอบคลุมไปถึงการจัดให้ได้มาซึ่งทรัพยากรสำหรับกระบวนการผลิต ตลอดจนกระบวนการหลังการผลิต ซึ่งรวมถึงการบรรจุภัณฑ์ การเก็บรักษา และการกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภค โดยอาจารย์อลิศราชี้ให้เห็นว่า เกษตรกรรมนั้นเกี่ยวข้องกับอุปทานตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกว้างและความซับซ้อนของเกษตรในเมืองที่ไม่ใช่แค่การปลูกพืชในพื้นที่เมือง แต่ยังเกี่ยวข้องไปถึงอาชีพและระบบอาหารโดยรวมด้วย ส่วนคำว่า “เมือง” เป็นแนวคิดที่สามารถนิยามได้อย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับมุมมองและความเหมาะสมของการนำไปใช้ ซึ่งอาจนิยามด้วยขอบเขตการปกครอง โดยอาศัยการกำหนดพื้นที่จากหน่วยงานรัฐ ในขณะที่บางแนวคิดมองเมืองจากความหนาแน่นของประชากร หากพื้นที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น ย่อมมีลักษณะของความเป็นเมืองมากกว่าพื้นที่ชนบท หรือเลือกนิยามด้วยความหนาแน่นของสิ่งปลูกสร้าง สำหรับเมืองที่มีอาคารสูง โครงสร้างพื้นฐานซับซ้อน และการใช้พื้นที่อย่างหนาแน่น มักถูกนิยามว่าเป็นเมืองมากกว่าพื้นที่ที่มีอาคารกระจัดกระจาย  จากนิยามอันหลากหลายของ “เกษตรในเมือง” […]

จุดเริ่มต้นการเปิดพื้นที่สาธารณะ “สวนครูองุ่น” สู่สวนเกษตรเพื่อประชาชน

08/09/2025

หลังจากที่เราได้พูดคุยกับคุณวิไลวรรณเกี่ยวกับความสำคัญของการแบ่งปันองค์ความรู้จาก SAFETist Farm ที่มุ่งเน้นให้คนในชุมชนเข้าใจเรื่อง อาหารปลอดภัย ไม่ใช่แค่การสอนปลูกผักเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการปลูกอย่างไรให้ ลดต้นทุน สร้างรายได้ให้ชุมชน และส่งเสริมสุขภาพที่ดี นอกจากนี้ SAFETist Farm ยังให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่เรียนรู้ที่ชุมชนสามารถมีส่วนร่วมได้ ทำให้เกิดการพึ่งพาตนเองและสร้างประโยชน์ให้กับส่วนรวม วันนี้ The Urbanis จึงอยากพาผู้อ่านทุกท่านไปทำความรู้จัก “ครูองุ่น มาลิก” ในฐานะ “ผู้ให้ของสังคม” หรือผู้ริเริ่มสวนครูองุ่นผ่านการสร้างคุณค่าพื้นที่ให้เกิดประโยชน์แก่ผู้คนในสังคม สู่การพัฒนากลายเป็นสวนเกษตรในเมือง โดยมีจุดเริ่มต้นจากความชอบการทำงานด้านสังคม สู่การเปิดพื้นที่สาธารณะแก่ประชาชนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ เพียงเพราะต้องการสร้างพื้นที่ที่มีประโยชน์ให้แก่ประชาชนได้เข้าใช้บริการอย่างเท่าเทียม ผ่านการพูดคุยกับ คุณสิริพร สุขชูศรี ตัวแทนของสวนครูองุ่น ในบทความนี้ จุดเริ่มต้นการแบ่งปันพื้นที่ส่วนบุคคล สู่พื้นที่ส่วนรวม “ครูองุ่นผู้ชื่นชอบงานด้านสังคม สู่การทำเพื่อสังคม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสละยศฐาบรรดาศักดิ์ สู่สามัญชนที่ต้องการให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่สังคม ด้วยการแบ่งปันพื้นที่ส่วนบุคคลสู่ส่วนรวม” เริ่มมาจากการแบ่งสันปันส่วนพื้นที่ให้กับประชาชนตั้งแต่อดีต เนื่องจากประชาชนต้องการนำพื้นที่ส่วนนี้มาปลูกพืชผักไว้เลี้ยงชีพ ต่อมาครูองุ่นต้องการให้ทุกคนสามารถเข้ามาและได้ผลประโยชน์จากพื้นที่ตรงนี้ จึงมีการเขียนพินัยกรรมมอบพื้นที่นี้ให้เป็นพื้นที่สาธารณะและช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ “ห้ามแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนจากพื้นที่แห่งนี้  แต่ต้องใช้เพื่อประโยชน์ส่วนรวมอย่างแท้จริง ที่นี่จึงเปิดกว้างให้ทุกคนได้เข้ามาใช้และได้รับประโยชน์ร่วมกัน” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ “สวนครูองุ่น” ผู้สืบทอดเจตนารมณ์ “การให้” ของครูองุ่น มูลนิธิกระจกเงา […]

เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ด้วยเกษตรในเมืองฉบับ SAFETist Farm

25/08/2025

ย้อนกลับไปในช่วงล็อกดาวน์จากวิกฤตโควิด-19 ผู้คนต่างเผชิญความยากลำบากในการดำรงชีวิต ระบบเศรษฐกิจหยุดชะงัก แหล่งอาหารขาดแคลนและมีราคาสูงขึ้น หลายคนจึงเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับแหล่งที่มาของอาหารและสุขภาพของตนเอง ในช่วงเวลานี้เองที่ทำให้ “คุณวิไลวรรณ ประทุมวงศ์” หันมาสนใจเรื่องแหล่งอาหารที่ปลอดภัยอย่างจริงจัง วันนี้ The Urbanis ขอพาผู้อ่านทุกท่านไปทำความรู้จักกับหนึ่งในองค์กรที่รวมตัวกับเพื่อขับเคลื่อนการทำเกษตรในเมืองให้เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น พร้อมสร้างโมเดลธุรกิจเพื่อให้เกิดความยั่งยืน พูดคุยกับ คุณวิไลวรรณ ประทุมวงศ์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง SAFETist Farm ถึงจุดเริ่มต้น และความท้าทายขององค์กร รวมถึงแผนการดำเนินงานต่อยอดให้ประเด็นเกษตรในเมืองกลายเป็นหัวข้อหลักของคนกทม. มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน จุดเริ่มต้นของ SAFETist Farm แรงผลักดันที่สำคัญมาจากประสบการณ์การสูญเสียคนใกล้ตัวด้วยโรคมะเร็ง ทำให้ตระหนักได้ว่าการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต และ “อาหาร” เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นจึงได้เริ่มศึกษาถึงความเชื่อมโยงระหว่างอาหารกับสุขภาพ และได้ตระหนักถึงบทบาทของเกษตรในเมือง ว่าเป็นหนึ่งในทางเลือกที่สามารถช่วยสร้างแหล่งอาหารที่ปลอดภัย และยังเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับชีวิตมากยิ่งขึ้น ด้วยแนวคิดนี้ SAFETist Farm จึงถือกำเนิดขึ้น โดยเริ่มจากการเป็นพื้นที่ทดลองและเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชแบบยั่งยืน การจัดการดินและน้ำในสภาพแวดล้อมเมือง ตลอดจนการแบ่งปันความรู้ด้านอาหารปลอดภัยให้กับชาวเมือง นอกจากนั้น ความสนใจในเรื่องอาหารปลอดภัยยังขยายออกไปสู่มิติของความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชน โดยต่อยอดไปสู่การเปิดร้านอาหารสุขภาพ ที่ใช้ผลผลิตจากฟาร์มมาเป็นวัตถุดิบอีกด้วย โดยในช่วงแรก ทุกคนในกลุ่มจะมีหน้าที่รับผิดชอบแตกต่างกันไปและเมื่อได้ผลผลิตแล้ว ก็จะเริ่มสร้างรายได้จากการส่งผักให้กับลูกค้าโดยการทำสัญญาตะกร้าผัก ในทุกๆเดือนลูกค้าจะได้รับผักสดๆ ที่กลุ่มผลิตขึ้นมา นอกจากนี้การมีรายได้จากแหล่งอื่น ในกลุ่มยังช่วยพยุงให้ธุรกิจนี้เดินต่อไปได้ ถึงแม้ว่าบางคนในกลุ่มจะไม่ได้ประโยชน์โดยตรงจากโครงการนี้อย่างเต็มที่ก็ตาม  […]

เปลี่ยนพื้นที่รกร้าง เป็นสวนเกษตรของชุมชน โมเดลการพัฒนาชุมชนโมราวรรณ 2

22/08/2025

หลังจากครั้งที่แล้วพาผู้อ่านไปรู้จักสำนักงานเขตหลักสี่ที่เสริมสร้างความเข้มแข็งของคนในองค์กรจากองค์ความรู้การทำเกษตรในเมือง ทั้งนี้เราจะพาผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนด้วยการทำเกษตรในเมืองที่เกิดจากความสนใจของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งและถ่ายทอดไปยังกลุ่มใหญ่ อย่างไรก็ตามไม่ใช่ในระดับหน่วยงานเหมือนครั้งที่แล้ว แต่เป็นในระดับชุมชน เริ่มต้นจากคนในชุมชนสนใจเรื่องการทำเกษตร เพื่อต้องการสร้างอาหารปลอดภัยเพื่อแจกจ่ายให้กับคนในชุมชน วันนี้ The Urbanis จึงพาผู้อ่านทุกท่านไปทำความรู้จักกับชุมชนโมราวรรณ 2 หนึ่งในชุมชนที่นำแนวคิดเกษตรในเมืองมาใช้พัฒนาพื้นที่ และสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน จนเกิดเครือข่ายทางสังคมที่เข้มแข็ง จุดเริ่มต้นในการทำเกษตรในเมืองของชุมชนนี้คืออะไร? การนำเกษตรในเมืองเข้ามาใช้พัฒนาชุมชนเป็นอย่างไรบ้าง? มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน อะไรที่เป็นแรงผลักดันในการทำเกษตรในเมืองของชุมชนโมราวรรณ 2 ? “การทำเกษตรในเมืองเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง” คำพูดจากอาจารย์ภูมิใจ หนึ่งในสมาชิกชุมชนโมราวรรณ 2 ที่มีความสนใจในการทำเกษตรกรรมบนพื้นที่ว่างเปล่าภายในชุมชน  จุดเริ่มต้นจากสมาชิกชุมชนโมราวรรณ 2 มีความสนใจการทำเกษตรในชุมชนจึงได้หารือแนวทางการนำพื้นที่รกร้างมาสร้างให้เกิดประโยชน์ โดยหัวใจหลักของการทำสวนเกษตรครั้งนี้คือ ให้คนในชุมชนมามีส่วนร่วมในกิจกรรม ไม่ใช่เพียงต้นทุนวัสดุอุปกรณ์แต่รวมถึงองค์ความรู้ การร่วมมือร่วมใจ  และทักษะในการทำการเกษตรที่ช่วยกันพัฒนาทักษะ จนสามารถสร้างเครือข่ายชุมชนเข้มแข็งได้ โดยเป้าหมายหลักของการทำเกษตรในเมืองของชุมชน คือ  เพื่อต้องการแบ่งปันอาหารสู่ครัวเรือนกันเองในชุมชม และเป้าหมายต่อมา คือ เรื่องการจัดการขยะ เราจะเริ่มจากการคิดไอเดียที่ทำได้ง่าย ไม่มีต้นทุนสูงเพราะเราเน้นแค่ว่าทำได้จริงและเกิดประโยชน์ให้กับชุมชนจริง หากชุมชนเห็นความสำคัญของการหาทางออกของปัญหา และคนในชุมชนให้ความร่วมมือ ก็จะเกิดสร้างมิตรไมตรีและเกิดความตระหนักการอยู่รวมกันของคนในชุมชนเพื่อเครือข่ายในชุมชนที่เข้มแข็ง  แสดงให้เห็นว่า หัวใจหลักของการทำเกษตรในเมืองของชุมชนโมราวรรณ 2  คือ  ความร่วมมือของคนในชุมชนโดยมีแรงใจเป็นตัวขับเคลื่อนการทำสวนเกษตร  มาจากการเริ่มต้นด้วยแนวคิดที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนสูงและทำได้ง่าย ช่วยให้สมาชิกในชุมชนสามารถเห็นกระบวนการทำจริงและมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงจัดการระบบสิ่งแวดล้อมที่ดีและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในชุมชน […]

แปลงเกษตรบนดาดฟ้า : ก้าวแรกสู่เกษตรในเมือง จากสำนักงานเขตหลักสี่

18/08/2025

การทำเกษตรไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่บนดินอีกต่อไป โดยเฉพาะในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด ด้วยความต้องการจะสร้างแหล่งอาหารปลอดภัยให้กับบุคลากรภายในองค์กร “สวนเกษตรลอยฟ้า” จึงเริ่มต้นขึ้นบนดาดฟ้าของสำนักงานเขตหลักสี่ ซึ่งเป็นตัวอย่างของการใช้พื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์  จากบทความที่แล้วได้พาผู้อ่านทุกท่านไปทราบถึงแนวคิดและบทบาทของกลุ่มงานส่งเสริมเกษตรกรรม สำนักงานพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร ผ่านการสนับสนุนอาชีพด้านการเกษตรในพื้นที่เมือง ในวันนี้ The Urbanis จึงขอชวนชาวเมืองคุยถึงเรื่องการทำเกษตรในเมือง กับ คุณสมฤดี ลันสุชีพ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตหลักสี่ ปี 2566 จะมาเล่าถึงหน่วยงานราชการที่มีประสบการณ์ทำเกษตรมากว่า 20 ปี เพื่อเรียนรู้ถึงปัญหา อุปสรรค ทำให้สำนักงานเขตหลักสี่กลายเป็นที่รู้จักในฐานะต้นแบบของการทำเกษตรบนดาดฟ้าในเมือง เมื่อไรที่สำนักงานเขตเริ่มหันมาสนใจการทำเกษตร? สำนักงานเขตหลักสี่เริ่มทำเกษตรมาตั้งแต่ปี 2545 จุดเริ่มต้นการทำเกษตรบนดาดฟ้า ช่วงแรกทำเกษตรแปลงใหญ่บนดินแต่ทำในพื้นที่ของเอกชน ต่อมาทางเอกชนต้องการใช้ประโยชน์พื้นที่ จึงได้ส่งคืนพื้นที่  แต่เนื่องจากทางสำนักงานเขตมีบุคลากรด้านการเกษตรที่มีศักยภาพ ต้องการต่อยอดการทำสวนเกษตร ประกอบกับทางสำนักงานเขตมีพื้นที่ว่างบนดาดฟ้าเป็นพื้นที่ใช้สำหรับเก็บของ จึงมีการแบ่งพื้นที่บางส่วน และจัดระเบียบพื้นที่ให้เป็นพื้นที่สำหรับการทำเกษตร โดยให้ฝ่ายรักษาความสะอาดเข้ามาจัดระเบียบพื้นที่ ปัจจุบัน สำนักงานเขตหลักสี่ใช้พื้นที่ดาดฟ้าประมาณ 440 ตารางเมตร ในการปลูกผักสวนเกษตรลอยฟ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมแนวคิดเกษตรในเมือง สร้างความมั่นคงทางอาหารภายในองค์กร และแบ่งปันให้ชุมชนตามโอกาส นอกจากนี้ สำนักงานเขตยังมีเป้าหมายในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรในเมืองให้กับชุมชน และองค์กรภายนอก เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพึ่งพาตนเอง และขยายผลไปสู่สังคมในวงกว้าง แปลงเกษตรบนพื้นที่ดาดฟ้าสำนักงานเขต ต้นทุนด้านบุคลากรเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดสวนเกษตรบนดาดฟ้าของสำนักงานเขตคุณสมฤดี ลันสุชีพ […]

1 2 3 10