03/11/2025
Environment

“จริงใจมาร์เก็ต” จุดเริ่มต้นของการสร้างความยั่งยืนเพื่อเกษตรกรท้องถิ่น และส่งต่อคุณภาพถึงผู้บริโภค

The Urbanis
 


จริงใจมาร์เก็ต เป็นโครงการของเครือเซ็นทรัล สาขาเชียงใหม่ ที่มาพร้อมกับเป้าหมายในการสร้างความสุขอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิดรักษ์โลก แม้จะเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาบ้าง แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากทางสาธารณสุขจังหวัดที่เล็งเห็นประโยชน์จากพื้นที่ของเซ็นทรัล พร้อมกับโครงการขับเคลื่อนในการสนับสนุนให้เกษตรกรลดและเลิกใช้สารเคมีในการทำเกษตร จึงเกิดเป็นร่างสัญญา MOU ขึ้นมา ภายใต้ข้อกำหนดในการใช้พื้นที่เพื่อสร้างประโยชน์แก่สังคมร่วมกัน นับเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดจริงใจ ตลาดนัดเพื่อชุมชน (จริงใจ Farmers Market เชียงใหม่ และสินค้าทำมือ)

ในวันนี้ The Urbanis จะพาทุกท่านไปรู้จักเรื่องราวเบื้องหลังของโครงการจริงใจมาร์เก็ต ผ่านมุมมองของคุณอ้อมขวัญ สาณะเสน ผู้อำนวยการโครงการจริงใจมาร์เก็ต เชียงใหม่ กลุ่มเซ็นทรัล ที่ได้ขับเคลื่อนให้ตลาดแห่งนี้ให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความยั่งยืน อะไรคือจุดเริ่มต้นของโครงการ และพวกเขาดำเนินการกันอย่างไร ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน

กฎระเบียบ ความท้าทาย และการแก้ไข

ความท้าทายที่จริงใจมาร์เก็ตพบอยู่บ่อยครั้ง คือ การจัดการและระเบียบการต่ออายุในรับรอง โดยผู้เข้าร่วมลืมต่ออายุใบรับรอง ผู้เข้าร่วมนำผลผลิตจากที่อื่นมาขายโดยไม่ได้ปลูกเอง ซึ่งเป็นผลผลิตที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ และอาจมีสารตกค้าง จนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีปัญหาผู้เข้าร่วมที่เกิดอุบัติเหตุและไม่สามารถดำเนินการค้าขายได้ ส่งผลให้ต้องหาวิธีการแก้ไขและรักษามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อคงคุณภาพของสินค้าตามที่จริงใจมาร์เก็ตตั้งใจไว้

วิธีการแก้ไขและรักษามาตรฐานดังกล่าว มาในรูปแบบของกฎระเบียบ ผ่านคณะกรรมการตรวจสอบของโครงการจริงใจมาร์เก็ตที่มีเกณฑ์การคัดเลือกผู้ประกอบการอย่างโปร่งใสและเข้มงวด โดยผู้ประกอบที่มาเข้าร่วมต้องเป็นเกษตรกรเท่านั้น และต้องสร้างความเชื่อใจให้กับทางคณะกรรมการ สำหรับเกษตรอินทรีย์ ผู้เข้าร่วมจำเป็นต้องมีใบรับรองที่เชื่อถือได้ผ่านองค์กรออร์แกนิคไทยแลนด์ และ PGS (Participatory Guarantee System) สำหรับเกษตรปลอดภัยต้องได้รับการรับรองจากเกษตรจังหวัดที่มีมาตรฐาน นอกจากนี้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนเกษตรท้องถิ่นภายในเชียงใหม่หรือเกษตรจังหวัดเพื่อนบ้านอย่างลำพูน จริงใจมาร์เก็ตจึงได้เล็งเห็นความสะดวกในการขนส่ง และการปลูกพืชหมุนเวียน ไม่เน้นพืชเชิงเดี่ยว ซึ่งผู้ประกอบจำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบฟาร์ม 

กฎระเบียบที่เข้มงวดเหล่านี้สามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้ว่า เกษตรกรที่เข้ามาในตลาดคือ ผู้ประกอบการเกษตรกรตัวจริง ที่ปลูกพืชผักแล้วได้ผลผลิตมีคุณภาพและผ่านการรับรองมาหลายด่าน จนได้นำมาขายในตลาดจริงใจมาร์เก็ต  และแม้จะผ่านการรับรองมาแล้ว ทางตลาดก็ยังมีการตรวจสอบสารตกค้างในสินค้าทุกสัปดาห์ โดยสุ่มเก็บตัวอย่างประมาณ 15 ตัวอย่างต่อสัปดาห์ ซึ่งร้านใดก็ตามที่เจ้าหน้าที่ตลาดตรวจพบเจอสารตกค้างในระดับที่ไม่ปลอดภัย จะมีการพูดคุยกับเกษตรกรถึงสาเหตุเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา หากเกษตรกรไม่ให้ความร่วมมือ จะถือว่าการใช้ความเข้มงวดของกฏระเบียบเป็นสิ่งชอบธรรม ทั้งนี้ เพื่อรักษามาตรฐานและความเชื่อมั่นของตลาดจริงใจมาร์เก็ต

ตลาดที่เป็นมากกว่าตลาด  

“จริงใจมาร์เก็ตไม่ได้ดูเหมือนตลาด แต่เป็นเหมือนกับชุมชนค่ะ”

คำกล่าวจาก คุณอ้อมขวัญ สาณะเสน  ผู้อำนวยการโครงการจริงใจมาร์เก็ต เชียงใหม่ ของกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมุมมองที่ว่า ผู้บริโภคมีความผูกพันกับเกษตรกรในโครงการ ราวกับมาใช้ชีวิตแลกเปลี่ยนกันมากกว่าการค้าขาย จึงเป็นเหตุผลให้คุณอ้อมขวัญมองจริงใจมาร์เก็ตว่าเป็นเหมือนชุมชน ไม่ใช่ตลาด โดยกลุ่มเกษตรกรที่ทำให้คุณอ้อมขวัญมีมุมมองดังกล่าวคือ เกษตรกรในโซนฟาร์มเมอร์มาร์เก็ต ที่เน้นปลูกผักริมรั้วตามฤดูกาล โดยเฉพาะผักออร์แกนิค และมีผลผลิตหลากหลายที่ไม่สามารถหาซื้อได้ตามสถานที่ทั่วไป จึงเกิดเป็นประเด็นให้ผู้คนได้พูดคุยมากมายเกี่ยวกับผลผลิตเหล่านั้น 

อนาคตที่จริงใจของจริงใจมาร์เก็ต

เนื่องด้วยวิสัยทัศน์ของคุณอ้อมขวัญที่อยากให้เกษตรกรผู้ค้าขายในโซนฟาร์มเมอร์มาร์เก็ตใช้เกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในความต้องการให้ผู้บริโภคที่เข้ามาซื้อได้ผลผลิตที่มีคุณภาพกลับไปจากจริงใจมาร์เก็ต เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า เกษตรอินทรีย์ทำให้ได้ผลผลิตที่ปลอดภัย มีคุณภาพสูง ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคและแมลง อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม จึงทำให้แผนการขยายตลาดโซนฟาร์มเมอร์มาร์เก็ตในอนาคตยังคงมีปัญหาเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม คุณอ้อมขวัญกำลังขยายเครือข่ายเรื่องของการรีไซเคิล หรือการกำจัดขยะอยู่ในปัจจุบัน โดยมีทางเซ็นทรัลเข้ามาสนับสนุนเทคโนโลยีการเกษตร เช่น เครื่องกำจัดขยะอินทรีย์ ที่นำขยะมาทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งแนวคิดนี้ถือเป็นการนำทรัพยากรเหลือใช้กลับมาใช้ต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะด้วยแนวคิดเกษตรในเมือง: กลไกบูรณาการเชิงนโยบายเพื่อสร้างพื้นที่สุขภาวะ และพื้นที่ส่งเสริมความมั่นคงและความปลอดภัยทางอาหารของกรุงเทพมหานคร ดำเนินการโดยศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์เมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (UDDC-CEUS) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)


Contributor