07/08/2020
Mobility

โบกมือลารถรา Net City ออกแบบเมืองใหม่ในเซินเจิ้นให้คนเดินถนนเป็นศูนย์กลาง

กรกมล ศรีวัฒน์
 


“โอ้โฮ นี่หรือบางกอก
ผิดกับบ้านนอก
ตั้งหลายศอก หลายวา
รถราแล่นกันวุ่นวาย
มากกว่าฝูงควายฝูงวัวบ้านนา”

เพลงโอ้โฮบางกอกเป็นอีกหนึ่งเพลงที่สะท้อนอิทธิพลของรถยนต์ในเมืองกรุงได้เป็นอย่างดี ในอดีตรถหรือถนนอาจจะเป็นหลักฐานของความเจริญที่เข้ามาถึง แต่ปัจจุบันและอนาคตอาจไม่ใช่อีกต่อไป หลายประเทศเริ่มออกแบบให้เมืองปราศจากถนนขนาดใหญ่ จำกัดจำนวนรถยนต์ด้วยเหตุผลทั้งทางสิ่งแวดล้อม และเหตุผลเรื่องการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ เหมือนอย่าง Net City เมืองที่จะเกิดขึ้นใหม่ในเซินเจิ้นที่ออกแบบให้คนเดินถนนและนักปั่นจักรยานเป็นศูนย์กลางของเมือง

ภาพแบบจำลองของเมือง Net City
เมือง Net City จะเป็นเมืองใหม่ในมหานครเซินเจิ้น ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานของ Tencent บริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ในจีน
ที่มาภาพ: NBBJ/CNN

เนื้อที่กว่า 2 ล้านตารางเมตร ส่วนหนึ่งของเมืองเซินเจิ้น หนึ่งในมหานครชื่อดังของโลกถูกออกแบบมาเพื่อเป็นทั้งที่ตั้งสำนักงานของ Tencent บริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ในจีน ผู้อยู่เบื้องหลังแอปพลิเคชัน Wechat และบริการรับ-ส่งข้อความทางอินเทอร์เน็ตอย่าง QQ รวมไปถึงออกแบบให้มีที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ เพื่อรองรับคนกว่า 80,000 คน

โดยปกติในหลายเมืองใหญ่ พื้นที่มากกว่าครึ่งจะถูกใช้ไปกับถนนและลานจอดรถยนต์ แต่โจนาธาน วาร์ด พาร์ตเนอร์ผู้ออกแบบจาก NBBJ บริษัทที่ชนะการแข่งขันบอกเล่าว่าเมืองใหม่ที่จะเกิดขึ้นพื้นที่ส่วนใหญ่จะถูกใช้เป็นพื้นที่สำหรับคนเดินเท้า คนปั่นจักรยาน เต็มไปด้วยสวนสาธารณะ พื้นที่สีเขียวที่คนสามารถเข้าถึงธรรมชาติได้ง่ายขึ้น และยังเป็นแก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำในช่วงมรสุม 

สำหรับคอนเซปต์พื้นฐานการจำกัดการจราจรในท้องถนนที่จะหยิบมาใช้ในการออกแบบนั้นคล้ายกับซูเปอร์บล็อกในเมืองบาร์เซโลนา “ถ้าคุณแยกส่วนมันจะมองเป็น 6 บล็อก แต่ละบล็อกจะล้อมไปด้วยถนนใหญ่อย่างที่คุณจะเห็นเป็นปกติในเซินเจิ้น แต่พวกเราจะรวมทั้ง 6 บล็อกเข้าด้วยกันเพื่อให้มีพื้นที่ถนนใหญ่เฉพาะรอบนอก ส่วนถนนด้านในจะเปลี่ยนเป็นถนนคนเดินแทน” วาร์ดบอกเล่าว่าตึกยังคงสามารถเขาถึงโดยรถยนต์ในรอบนอก ส่วนที่จอดรถจะอยู่ใต้ใต้ดิน ทำให้การขับรถไม่จำเป็นอีกต่อไป

การออกแบบจะคำนึงถึงคนเป็นศูนย์กลาง สร้างพื้นที่ให้คนเดินถนนและนักปั่นจักรยานได้ออกมาใช้ชีวิต
ที่มาภาพ: NBBJ/CNN

 เพื่อที่จะสร้างพื้นที่ใหม่แห่งนวัตกรรมและพื้นที่แห่งความสุขเพื่อใช้ชีวิตและทำงาน “สิ่งหนึ่งที่จะต้องจำกัดคือจำนวนของรถยนต์”

“ในช่วงสามเจเนอเรชันที่ผ่านมา เมืองของเราถูกออกแบบเพื่อรถยนต์ แน่นอนว่าเราไม่สามารถกำจัดรถออกไปอย่างทันทีทันใด เรายังไปไม่ถึงขั้นนั้น แต่จะทำอย่างไรให้ลดจำนวนรถอย่างเห็นผล และทำให้คนคิดได้ว่าบางทีอาจจะไม่จำเป็นต้องมีก็ได้” การออกแบบเมืองจึงต้องอำนวยความสะดวกให้คนได้เดินในชีวิตประจำวัน เดินไปทำงานหรือเดินไปทำธุระ รวมไปถึงสามารถเดินภายใน 2 นาทีเพื่อเข้าใช้บริการรถสาธารณะอื่นๆ และเมื่อคนจากส่วนอื่นของเซินเจิ้นต้องการจะเดินทางมาออกกำลังกายที่สวนสาธารณะของเมืองใหม่ พวกเขาจะไม่ต้องขับรถมา แต่เลือกใช้บริการสาธารณะอย่างอื่น เช่น เรือข้ามฝาก จักรยาน รถเมล์ หรือเดินทางผ่านรถไฟฟ้าใต้ดินแทน

เมือง Net City คาดว่าจะก่อสร้างในช่วงปลายปีนี้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 7 ปี โดยมีตึกที่มีความสูงแตกต่างตั้งแต่ 1 ไปจนถึง 30 ชั้นซึ่งจะถูกออกแบบจากบริษัทสถาปนิกหลายบริษัท

สภาพการจราจรยามค่ำคืนในลอสแอนเจลิส

ไม่ใช่แค่เมืองในเซินเจิ้น แต่เมืองใหญ่หลายเมืองก็หันมาใช้แนวทางในการลดรถยนต์บนท้องถนนเช่นเดียวกัน อย่างลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกาที่วางแผนว่าจะนำคนออกจากรถยนต์ส่วนตัว ให้ประชาชนมาใช้รถสาธารณะ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ตามแผน  Zero Emissions 2028 Roadmap 2.0 ด้วยแนวทางการสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการขนส่งสาธารณะ อย่างเปลี่ยนให้รถโดยสารประจำทางมาขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เพื่อลดเสียงดังและเพิ่มบริการอย่างไวไฟฟรี ที่ชาร์ตโทรศัพท์ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการออกแบบถนนให้ปลอดภัยสำหรับนักปั่นจักรยาน

สำหรับประเทศในแถบยุโรป หลายเมืองพยายามสร้างพื้นที่ปลอดรถหรือลดการมีพื้นที่จอดรถเช่นเดียวกัน อย่างเมืองฮัมบูร์ก ที่จะลดจำนวนรถยนต์ที่จะขับเข้าเมือง กับนโยบายชื่อว่า Green Network โดยมีบางเส้นทางที่เกิดขึ้นเพื่อคนเดินและจักรยานเท่านั้น รวมถึงเพิ่มพื้นที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่

การเปลี่ยนแปลงของเมืองที่ลดถนนใหญ่ เพิ่มพื้นที่ให้กับคนเดินถนน นักปั่นจักรยาน นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตัวและความตระหนักถึงปัญหาโลกร้อนของผู้คนที่กระตุ้นจากล่างขึ้นบนไปสู่การวางนโยบายแล้ว ยังสะท้อนว่าเมืองยังเห็นคนเป็นศูนย์กลางในการใช้พื้นที่สาธารณะอีกด้วย

อ้างอิงข้อมูล

The Shenzhen effect: Why China’s original ‘model’ city matters more than ever

Tencent is building a Monaco-sized ‘city of the future’ in Shenzhen

The Green Network: How Hamburg could be car-free in 20 years

This new car-free district in Shenzhen is the size of midtown Manhattan

How Los Angeles plans to get hundreds of thousands of people out of cars


Contributor