25/08/2025
Environment

เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ด้วยเกษตรในเมืองฉบับ SAFETist Farm

The Urbanis
 


ย้อนกลับไปในช่วงล็อกดาวน์จากวิกฤตโควิด-19 ผู้คนต่างเผชิญความยากลำบากในการดำรงชีวิต ระบบเศรษฐกิจหยุดชะงัก แหล่งอาหารขาดแคลนและมีราคาสูงขึ้น หลายคนจึงเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับแหล่งที่มาของอาหารและสุขภาพของตนเอง ในช่วงเวลานี้เองที่ทำให้ “คุณวิไลวรรณ ประทุมวงศ์” หันมาสนใจเรื่องแหล่งอาหารที่ปลอดภัยอย่างจริงจัง

วันนี้ The Urbanis ขอพาผู้อ่านทุกท่านไปทำความรู้จักกับหนึ่งในองค์กรที่รวมตัวกับเพื่อขับเคลื่อนการทำเกษตรในเมืองให้เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น พร้อมสร้างโมเดลธุรกิจเพื่อให้เกิดความยั่งยืน พูดคุยกับ คุณวิไลวรรณ ประทุมวงศ์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง SAFETist Farm ถึงจุดเริ่มต้น และความท้าทายขององค์กร รวมถึงแผนการดำเนินงานต่อยอดให้ประเด็นเกษตรในเมืองกลายเป็นหัวข้อหลักของคนกทม. มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน

จุดเริ่มต้นของ SAFETist Farm

แรงผลักดันที่สำคัญมาจากประสบการณ์การสูญเสียคนใกล้ตัวด้วยโรคมะเร็ง ทำให้ตระหนักได้ว่าการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต และ “อาหาร” เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นจึงได้เริ่มศึกษาถึงความเชื่อมโยงระหว่างอาหารกับสุขภาพ และได้ตระหนักถึงบทบาทของเกษตรในเมือง ว่าเป็นหนึ่งในทางเลือกที่สามารถช่วยสร้างแหล่งอาหารที่ปลอดภัย และยังเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับชีวิตมากยิ่งขึ้น

ด้วยแนวคิดนี้ SAFETist Farm จึงถือกำเนิดขึ้น โดยเริ่มจากการเป็นพื้นที่ทดลองและเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชแบบยั่งยืน การจัดการดินและน้ำในสภาพแวดล้อมเมือง ตลอดจนการแบ่งปันความรู้ด้านอาหารปลอดภัยให้กับชาวเมือง นอกจากนั้น ความสนใจในเรื่องอาหารปลอดภัยยังขยายออกไปสู่มิติของความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชน โดยต่อยอดไปสู่การเปิดร้านอาหารสุขภาพ ที่ใช้ผลผลิตจากฟาร์มมาเป็นวัตถุดิบอีกด้วย

โดยในช่วงแรก ทุกคนในกลุ่มจะมีหน้าที่รับผิดชอบแตกต่างกันไปและเมื่อได้ผลผลิตแล้ว ก็จะเริ่มสร้างรายได้จากการส่งผักให้กับลูกค้าโดยการทำสัญญาตะกร้าผัก ในทุกๆเดือนลูกค้าจะได้รับผักสดๆ ที่กลุ่มผลิตขึ้นมา นอกจากนี้การมีรายได้จากแหล่งอื่น ในกลุ่มยังช่วยพยุงให้ธุรกิจนี้เดินต่อไปได้ ถึงแม้ว่าบางคนในกลุ่มจะไม่ได้ประโยชน์โดยตรงจากโครงการนี้อย่างเต็มที่ก็ตาม  แต่โอกาสที่ได้ไม่เพียงแค่สร้างรายได้ให้กับชุมชน แต่ยังช่วยสร้างความยั่งยืนในระยะยาว โดยมีการทำงานร่วมกันของทุกคนในกลุ่มและการขยายผลไปยังชุมชนรอบข้างเพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ที่ดีให้กับคนอื่นด้วย

ความท้าทายเพื่อสร้างผลกระทบต่อคนเมือง

สร้างความเข้าใจในเรื่องความมั่นคงทางอาหาร คนเมืองส่วนใหญ่ยังไม่ได้เข้าใจความสำคัญเรื่องของความมั่นคงทางอาหาร หรือเหตุผลในการปลูกผักท้องถิ่น หลายคนไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องการเลือกกินอาหารที่ปลอดภัย

การเปลี่ยนวิถีชีวิตให้คนเมืองให้หันมาปลูกผักหรือกินผักท้องถิ่นเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก ไม่ใช่แค่การสอนให้ปลูกผักอย่างเดียว แต่พยายามสื่อให้พวกเขาเข้าใจและเข้าถึงประโยชน์ในแง่ของค่าใช้จ่ายที่ถูกขึ้น สุขภาพที่ดีขึ้น และการสร้างรายได้จากการแลกเปลี่ยนหรือขายผลิตภัณฑ์ภายในชุมชน เรียนรู้และปลูกผักในเมือง คนเมืองจะได้เข้าใจว่า การปลูกผักไม่ใช่เป็นเพียงแค่กิจกรรมหรืองานอดิเรกส่วนตัว แต่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งสร้างคุณค่าได้ เพื่อให้มีอิมแพคเหมือนในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพ

การขยายผลในอนาคตของ Safetist farm

การกระจายส่งต่อเรื่องที่ SAFETist Farm ทำอยู่สามารถทำได้ถ้ามีคนพร้อมที่จะเรียนรู้สำหรับที่นี่แล้วพร้อมที่จะให้แบ่งปันแนวทาง การปลูก การขายได้ตลอดเวลา ไอเดียของที่นี่ค่อนข้างใหม่ มีโมเดลที่ร่วมมือกันระหว่างสมาชิก สมาชิกได้เสนอแนวคิดป้องกันเวลาเกิดวิกฤต  จึงได้เตรียมแผนจัดการเพื่อพื้นที่เกษตรให้กับชุมชน กำหนดไว้ว่าควรปลูกอะไรบ้าง สร้างแผนที่เพื่อสามารถช่วยให้เห็นภาพรวมของพื้นที่เกษตรที่มีในชุมชน และหารือแบ่งพื้นที่ตามศักยภาพและความเหมาะสมของแต่ละคนในชุมชน การมีคลังอาหารในพื้นที่ที่สามารถตอบสนองความต้องการอาหารพื้นฐานของชุมชนได้ สามารถช่วยให้คนในชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองในยามวิกฤต และชุมชนจะมีความมั่นคงทางอาหารมากขึ้น ชุมชนสามารถพึ่งตัวเองได้ เพื่อที่จะเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต  อีกทั้งยังมีโมเดหลากหลายในการปลูกเพื่อหาวิธีเหมาะสมและยืดหยุ่นที่สุดสำหรับพื้นที่ที่แต่ละชุมชนต้องเจอ ที่นี่กำลังพัฒนาเพื่อให้โมเดลยั่งยืนการคิดค้นเกษตรที่หลากหลายและปรับตัวตามพื้นที่ที่เป็นอุปสรรคของแต่ละชุมชน เพื่อให้สามารถส่งต่อความรู้และแนวทางการเกษตรที่ยั่งยืนไปปรับใช้ในชุมชนอื่นๆ

ฟาร์มแห่งพัฒนาการเพื่อส่งต่อความรู้สู่เยาวชน

การพัฒนาฟาร์มสู่แหล่งเรียนรู้ของ SAFETist Farm อยู่ในช่วงระหว่างเติบโตและได้รับความสนใจจากทั้งชุมชนและสถานศึกษา โดยเฉพาะจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในพื้นที่ อีกทั้งได้ศึกษาแนวทางการเกษตรที่ยั่งยืนจากฟาร์มแห่งนี้  นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้จัดกิจกรรมร่วมกับฟาร์มอย่างต่อเนื่องทุกเดือน โดยออกแบบกิจกรรมให้กับนักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร เป็นเรื่องที่ฟาร์มให้ความสำคัญมาก การสร้าง และกิจกรรมการเรียนรู้ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้

โดยในอนาคต SAFETist Farm เปิดโอกาสที่สามารถนำองค์ความรู้ไปแบ่งปันกับสถานศึกษาต่างๆ ผ่านชุดการเรียนรู้ที่สะดวกและสามารถลงมือทำได้ เป็นการเสริมสร้างการเรียนรู้เชิงปฏิบัติและสร้างแรงบันดาลใจในการเกษตรที่ยั่งยืนให้แก่เยาวชน การพัฒนาฟาร์มให้เป็นแหล่งเรียนรู้สามารถเชื่อมโยงกับการศึกษาไปควบคู่กันจะช่วยสร้างการรับรู้และการเปลี่ยนแปลงให้กับแนวคิดของคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับเรื่องการเกษตร

สร้างความเชื่อมั่นในระบบการเกษตรที่โปร่งใส

ความสำคัญที่มองข้ามไม่ได้คือการสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและความโปร่งใสในการเกษตรโดยเฉพาะเรื่องของการรับรองความเป็นออแกนิค ต้องมีการเข้าถึงและตรวจสอบได้ตลอดเวลา เพื่อสร้างความมั่นใจในการทำเกษตรกรรม จึงปลอดภัยและเชื่อถือได้ การเปิดเผยและโปร่งใสในการดำเนินการเป็นสิ่งที่ต้องมี เพื่อให้ชุมชนสามารถเชื่อมั่นได้ว่าไม่มีการหลอกลวง

อีกเรื่องที่มองข้ามไม่ได้คือการหาผู้เชี่ยวชาญหรือคนที่มีความเชื่อในเกษตรที่ยั่งยืนในเมือง เพราะการทำเกษตรในเมือง จำเป็นต้องมีความเชื่อมั่น การทำเกษตรยั่งยืนต้องหาคนที่เชื่อในสิ่งเดียวกัน หากไม่มีความเชื่อมั่นหรือความตั้งใจจริงก็จะล้มเหลวไม่ต่างอะไรกับการทำสวนผักที่คนเมืองทำมาเป็นเวลานานเป็นกรณีศึกษา

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะด้วยแนวคิดเกษตรในเมือง: กลไกบูรณาการเชิงนโยบายเพื่อสร้างพื้นที่สุขภาวะ และพื้นที่ส่งเสริมความมั่นคงและความปลอดภัยทางอาหารของกรุงเทพมหานคร ดำเนินการโดยศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์เมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (UDDC-CEUS) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)


Contributor