14/02/2023
Public Realm

เมืองพาโสด: เมื่อคุณไม่ได้อยู่ในโหมดที่จะเจอคนที่ใช่

คณิน นิ่มพิศุทธิ์
 


การออกแบบพื้นที่ในเมืองส่งผลอย่างมากต่อความสัมพันธ์ของผู้คนในเมือง ปัจจุบันนี้ อัตราการมีคู่ของผู้คนลดลง ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากเมืองที่อยู่ ที่ทำให้ผู้คนขาดโอกาสที่จะมีปฏิสัมพันธ์กัน เป็นสถานการณ์ที่คนในเมืองมีการพูดถึงและให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องมาหลายปี บทความนี้จะมีการแสดงให้เห็นถึงประเด็นเรื่องของเมืองและการหาคู่ ว่าเมืองควรมีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาอย่างไร ที่จะตอบโจทย์คนโสด ที่อยากมีคู่หรือไม่อยากมีคู่ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจต่อการขับเคลื่อนเมืองให้น่าอยู่ผ่านประเด็นในชีวิตประจำวันและเป็นประเด็นที่ผู้คนค่อนข้างมีความรู้สึกเข้าร่วม

วาเลนไทน์นี้ หากใครที่ยังโสด มันอาจไม่ได้อยู่ที่คุณก็ได้ ถ้าคุณลองมองภาพจากในหนังหรืออนิเมะในความทรงจำของหลายๆ ท่าน ในแนวโรแมนติกคอมเมดี้มักจะมีภาพของการพบเจอกันระหว่างนางเอก พระเอก พระรอง หรือนางรอง ที่พบเจอกันในเมือง รถไฟใต้ดิน หรือเดินชนกันระหว่างทางไปวัด ไปดูดอกซากุระ แล้วย้อนกลับมองมาที่ประเทศไทย จะเห็นว่าคนไทยที่ไม่โสดจะอยู่ในสังคมเดียวกันเป็นหลัก เป็นเพื่อนหรือทำงานด้วยกันด้วยกัน ยิ่งมีพื้นที่ส่วนตัวมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้มีคนโสดมากขึ้น แล้วเมืองแบบไหน…ที่จะทำให้โสด?

เมืองอะไรเอ่ย?? ที่อยู่แล้ว “โสด”

เมืองสามารถทำให้เรา “โสด” ได้อย่างไร? ความ “โสด” เป็นส่วนหนึ่งผลลัพธ์มาจากวัฒนธรรมการขับรถยนต์ ขับรถไปทำงานแล้วกลับบ้านเวลาส่วนใหญ่อยู่บนท้องถนน และสามารถตีความได้อีกว่า ความ “โสด” นั้นมาจากชีวิตประจำวันไม่มีเวลาได้ดมดอกไม้ หรือหาความรื่นรมย์ชีวิตนั่นเอง เพราะเจอสภาพปัญหารถติดหนักมาก ชีวิตจึงต้องแกร่วอยู่บนท้องถนนนั่นเอง 

แล้วมันเกี่ยวข้องกันอย่างไร? เราจะอธิบายการที่เมืองมีส่งผลกับความสัมพันธ์และชีวิตคู่ของคนในกรุงเทพฯ ว่าทำไมคนในกรุงเทพฯ ถึงโสดกัน มีผลมาจากการใช้ชีวิตประจำวันของคนในเมืองหรือไม่ ผ่านหนังสือ บทความและการสำรวจของนักวิชาการ นักวิจัยและคนในเมือง

เมืองทำให้ โสด ?

ในปี 1969 นักสัตววิทยา Desmond Morris ได้ออกหนังสือชื่อThe Human Zoo เขาบอกว่า จริงๆ แล้วมนุษย์เราไม่เหมาะกับการอยู่ในเมืองที่แออัดและเบียดเสียด เมืองในปัจจุบันเป็นเหมือนป่าคอนกรีต ที่เหมือนกับสวนสัตว์มนุษย์ และเป็นเรื่องที่ยากสำหรับสัตว์ ที่จะจับคู่หรือผสมพันธุ์ในกรงของสวนสัตว์ มนุษย์เราก็เช่นกัน 

นอกจากนี้ The Daily Beast ได้ไปสำรวจอัตราของสาวโสดในเขตชานเมือง รวมไปถึงเมืองแห่งความรัก 50 เมืองยอดนิยม โดยดูจากอัตราการแต่งงาน การหย่าร้าง และปริมาณบาร์ ร้านอาหาร พบว่า เมืองหลายแห่ง ไม่เหมาะสำหรับการตกหลุมรัก สอดคล้องกับบทความของ Amanda Hess ที่เขียนขึ้นสำหรับ The Atlantic Cities ในหัวข้อ “Is Your City Making You Single? 

โดย Hess และชาวนิวยอร์คนหนึ่งได้พูดว่า “รถไฟใต้ดิน ทำให้รู้สึกเหนื่อยต่อการเดินทาง และภูมิศาสตร์ของเมืองนี้เอื้อต่อการบอกเลิกมากกว่า” ความรักที่กำลังหวานชื่น อาจจะตายได้ เพราะถ้าคุณนัดไปดื่มกันตอนกลางคืน นอกจากใช้เวลาเดินทางนานแล้ว อาจจะต้องจูบราตรีสวัสดิ์ล่วงหน้า และต้องพิจารณาว่าเราจะบอกลากันบนรถไฟใต้ดินไหม การอยู่ในรถไฟฟ้าใต้ดินที่ไม่มีคนอยู่เลย อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่สะดวกและอึดอัดใจสำหรับทั้งสองคน ดังนั้นการบอกเลิกถาวร ยังทำให้รู้สึกอึดอัดน้อยกว่า แถมไม่มีใครขับรถ นั่นหมายถึงต่างคนต้องต่างกลับเอง ไม่มีใครไปรับและไปส่งใคร 

นี่จึงเป็นเหตุผลของข้อสงสัยที่ว่าเมืองมีส่วนกับการทำให้ “โสด” และมีผลต่อชีวิตของคนเราเป็นอย่างมาก ปัญหาที่คิดว่าอาจเล็กน้อย หรือถูกมองข้ามอาจสร้างปัญหาในระยะยาวได้ จากการที่มีพื้นที่ให้ผู้คนได้มาพบเจอกันน้อยแล้ว ก็ยังมีปัญหาอีกมากมาย ท้ายที่สุดเราต้องมี Sense of Community หรือความรู้สึกในการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน เมืองที่ดีจะสร้างบรรยากาศในการเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่นั้น ที่จะช่วยให้เรามีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับคนในชุมชน มีโอกาสได้เจอความสัมพันธ์ใหม่ๆ ได้เจอสังคมใหม่ๆ และเราเชื่อว่าทุกคนจะสามารถเจอ “เมืองพาสุข” ของคุณได้

ที่มาข้อมูล

‘พื้นที่สาธารณะน้อยลง คนโสดก็ยิ่งเยอะขึ้น’ ดูความสัมพันธ์ที่แปรผันไปกับเมือง

โสด โทษผังเมืองได้ไหม? วิจัยเผย! ผังเมืองมีผลทำให้คนโสด

เมืองอะไรเอ่ย?จน-อ้วน-โสด ไดเอทถนนให้เดินได้เดินดี


Contributor