19/06/2023
Public Realm
พื้นที่สุขภาวะ: กับการเติมเต็มชีวิตผู้สูงอายุ
ธนธรณ์ คล้ายจินดา
ทุกคนเคยสังเกตกันไหมว่าทำไมละแวกบ้าน และชุมชนของเราถึงไม่มีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ พื้นที่สำหรับการออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งพื้นที่ที่สามารถทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งแน่นอนว่าหากเรามีพื้นที่เหล่านี้ จะช่วยส่งเสริมให้ผู้คนมีความแข็งแรงทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจไม่มากก็น้อย
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถไปออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมได้อย่างสม่ำเสมอ เนื่องด้วยปัจจัยที่หลากหลายและแตกต่างกันไป เช่น ไม่มีเวลา สวนสาธารณะอยู่ไกลจากที่พักอาศัย หรือถ้าจะออกกำลังกายที่บ้านก็มีพื้นที่ที่จำกัด โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุ การที่จะให้ไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะยิ่งเป็นเรื่องที่ยาก ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่ได้พร้อมและปัจจัยอื่น ๆ
ทั้งนี้ จากข้อมูลบริการสถิติข้อมูล กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย พบว่า ในปี 2565 จำนวนผู้สูง มีจำนวน 12,116,199 คน คิดเป็น 18.3% ของประชากรทั้งหมดในประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2564 อยู่ 0.5% แสดงให้เห็นว่าในอนาคตสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ดังนั้น เมืองควรมีพื้นที่กลางสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างไร ? ที่จะสามารถเชื่อมโยงหรือรองรับกับกลุ่มคนสูงอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างไม่เหงาหงอย
บทความนี้จะพาทุกท่านส่อง 3 เมือง ทั้งในไทยและต่างประเทศ ที่มีพื้นที่สุขภาวะที่ดี ที่ส่งเสริมการสร้างและพัฒนาสิ่งแวดล้อมทั้งทางกายภาพและทางสังคม ที่นอกจากจะส่งเสริมผู้สูงอายุสุขภาพกายแข็งแรงแล้วนั้น ยังส่งเสริมมิติด้านจิตใจ สติปัญญา และทางสังคม
โกรนิงเก้น: เมืองที่ผูกมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ที่มาภาพ Rick van Houten
Groningen เป็นเมืองที่มีสุขภาพดีที่สุดในเนเธอร์แลนด์ Arcadis อธิบายไว้ใน Gezonde Stad Index หรือดัชนีเมืองเพื่อสุขภาพประจำปี 2565 (The National Institute for Public Health and Environment (RIVM)) โดยใช้เกณฑ์ในการประเมินด้วยกัน 5 เกณฑ์ ซึ่งประกอบไปด้วย พื้นที่สีเขียว ความเป็นมิตรกับจักรยาน คุณภาพอากาศ ความรู้สึกปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย และการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งเมือง Groningen ได้มีการวางแผนเชิงพื้นที่เพื่อดึงดูดให้ทุกคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ปั่นจักรยานแทนการขับรถ โดยมีการสร้างทางหลวงสำหรับปั่นจักรยาน เพื่อให้ง่ายต่อการเดินทางทั่วเมืองโดยที่ไม่ต้องรอรถหรือหยุดรอสัญญาณไฟจราจร นอกจากนี้การที่ผู้คนใน Groningen นิยมที่จะปั่นจักรยานกันมาก ก็จะส่งผลให้เมืองมีสภาพอากาศที่ดี ผู้คนในเมืองก็จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สุขภาพจิตที่ดี และมีอายุที่ยืนยาว
สิงคโปร์: เมืองที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ
ที่มาภาพ Meriç Dağlı
แนวคิดเมืองเพื่อสุขภาพที่พัฒนาโดยบริษัทวิศวกรรม Witteveen+Bos และสถาปนิก ZJA มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมปัจจัยที่กำหนดสุขภาพ โดยปัจจัยเหล่านี้ ได้แก่ คุณภาพอากาศ มลพิษทางเสียง ความปลอดภัย แรงบันดาลใจ ความสุข วิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉง และอื่นๆ
เมืองเพื่อสุขภาพของสิงคโปร์ เป็นการใช้พื้นที่ใต้ดินเพื่อประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมของเมือง อาทิ การย้ายสถานที่ทำงานและแหล่งที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเมืองไปยังพื้นที่ใต้ดิน นอกจากนี้ยังมีแนวคิดในการที่จะพัฒนาพื้นที่เหนือพื้นดินโดยการที่ปรับปรุงสภาพแวดล้อมของเมือง ตัวอย่างเช่น การสร้างทางหลวงใต้ดิน จะช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศ ลดมลพิษทางเสียง และการสร้างพื้นที่เหนือพื้นดินให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สถานที่ออกกำลังกาย และที่อยู่อาศัย ที่สามารถทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตที่ดี
ราชบุรี: เมืองต้นแบบสุขภาวะของไทย
ที่มาภาพ https://www.hfocus.org/content/2018/09/16312
จังหวัดราชบุรีเป็นพื้นที่ต้นแบบสุขภาวะของประเทศไทยในการบรรลุเป้าหมายอย่างน้อย 10 อย่าง ซึ่งได้แก่ลดการสูบบุหรี่ ลดการดื่มสุรา ลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร ลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในหญิงตั้งครรภ์ เพิ่มการทานผักผลไม้ เพิ่มการมีกิจกรรมทางกาย ลดภาวะอ้วนในเด็ก ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง และการทำให้ประชาชนมีความสุข
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. ได้กล่าวว่า จังหวัดราชบุรี เป็นจังหวัดต้นแบบของเมืองสุขภาวะที่ทำงานแบบบูรณาการร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ มีเป้าหมายที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้น ผู้คนมีความรู้ในการที่จะป้องกันโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ รวมถึงการบริการด้านสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างตำบลต้นแบบสุขภาวะ ต่อยอดมาเป็นอำเภอต้นแบบสุขภาวะ มีเป้าหมายขับเคลื่อนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะลดการสูบบุหรี่ และลดการดื่มสุรา
ต.ดอนทราย จังหวัดราชบุรี เป็นตัวอย่างของตำบลที่มีประชาชนเข้าร่วมโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทยฯ มากถึง 2,738 คน ในจำนวนนี้สามารถเลิกสูบบุหรี่ตลอดชีวิตถึง 200 กว่าคน และในปี 2561 สามารถชักชวนประชาชนให้เลิกบุหรี่ได้ถึง 50 คน ซึ่งปัจจัยความสำเร็จของ ต.ดอนทราย คือ ความเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่และ อสม. ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการลดการสูบบุหรี่ ประกอบกับการใช้ศาสตร์แพทย์แผนจีนในการนวดกดจุดช่วยให้คนอยากเลิกสูบบุหรี่ นอกจากนี้การที่ลดการสูบบุหรี่ ลดการดื่มสุรายังทำให้ผู้คนในพื้นที่ห่างไกลจากโรคต่าง ๆ ทำให้ผู้คนมีอายุที่ยืนยาวขึ้น เนื่องจากมีสุขภาพที่ดี
จาก 3 เมืองที่ได้กล่าวข้างต้น ทำให้เห็นว่าการที่จะพัฒนาพื้นที่สุขภาวะให้เป็นเมืองที่มีสุขภาวะที่ดีต้องคำนึงถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ที่จะสามารถพัฒนาให้พื้นที่สุขภาวะเป็นเมืองที่มีสุขภาวะที่ดีได้อย่างยังยืน ซึ่งไม่ใช่แค่เมืองที่มีสุขภาวะที่ดีชั่วคราว หรือเมืองที่มีพื้นที่สุขภาวะในบางจุด และถ้าเมืองมีสุขภาวะที่ดีก็จะส่งผลให้ผู้คนในเมืองนั้นมีความแข็งแรงทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งเกี่ยวกับการสร้างเมืองสุขภาวะก็คือ การสร้างความเข้าใจให้กับผู้คนในพื้นที่เพื่อให้เกิดเมืองที่เป็นสุขภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสื่อเสริมสร้างความเป็นพลเมืองไทย: การใช้สื่อและการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการเรียนรู้สิทธิและหน้าที่ของความเป็นพลเมืองเพื่อขับเคลื่อนเมืองน่าอยู่ในประเทศไทย โดยศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC-CEUS) ในการสนับสนุนของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
ที่มาข้อมูล
Duhl, Leonard J. (1986), “The healthy city: its function and its future,” Health Promotion Vol.1, No.1,
pages 55-60
Why is Groningen the healthiest city in the Netherlands?
‘ราชบุรีโมเดล’ ต้นแบบเมืองสุขภาวะ