Environment



Urban design ทำให้กรุงเทพฯ เย็นลง 2°C ได้อย่างไร

01/11/2019

ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่แน่ชัดที่เราต่างรู้สึกว่าอากาศร้อนๆ เป็นของคู่กับกรุงเทพฯ ความร้อนของชนบทที่มากกว่าในเมืองนั้นไม่ใช่เรื่องที่คิดกันไปเอง เพราะ เซน – กิตติณัฐ พิมพขันธ์ นิสิตภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทบทวนงานวิจัยที่ผ่านๆ มาแล้วพบว่าอุณหภูมิเฉลี่ยพื้นที่กลางเมืองกับพื้นที่ชนบทนั้นต่างกันมากกว่า 6 องศาเซลเซียส สภาวะแบบนี้มีชื่อเรียกว่า เกาะความร้อนเมือง (urban heat island)  ซึ่งมีสาเหตุหลักอยู่ 2 ปัจจัย คือ การเปลี่ยนแปลงพื้นผิวของแผ่นดินจากการพัฒนาเมือง อีกส่วนหนึ่งความร้อนที่ปล่อยออกจากการใช้พลังงานอาคาร กิจกรรมการสัญจรโดยรถยนต์ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงระดับการเพิ่มของก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์เป็นส่วนที่มีอิทธิพลสำคัญที่สุดในการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (Global heating) เมื่อดูข้อมูลเจาะจงในพื้นที่เมืองช่วง 30 ปีย้อนหลัง ประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นเฉลี่ยปีละ 0.6 องศาเซลเซียส “สภาวะน่าสบาย” ของเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ นั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 28-31 องศาเซลเซียส แต่หากดูค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิในเมืองหลวงเกินสภาวะน่าสบายไปที่ 2-3 องศาเซลเซียส นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงรู้สึกร้อนสุมทรวง ต้องหามุมหลบในซอกหลืบเงาร่มของอาคาร งาน Thesis ของเซนจึงพยายามใช้ความรู้ด้าน Urban design และ […]

ย้อนรอยกรุงเทพฯ 12 ปี เราเป็นเมืองน้ำท่วมกี่ครั้ง กี่ครากันแน่?

01/11/2019

ความที่กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย ทำให้กรุงเทพฯ เป็นดั่งศูนย์กลางของสถาบันต่างๆ ทั้งการปกครอง การศึกษา การคมนาคม โดยเฉพาะเศรษฐกิจ คงหลีกเลี่ยงได้ยากที่ใครหลายคนจะเปรียบกรุงเทพฯ เป็นดั่งหัวใจหลักของประเทศ กระทั่งหน่วยงานต่างๆ ให้ความสำคัญในการป้องกันน้ำท่วมมากกว่าพื้นที่อื่น อย่างไรก็ตาม อย่างที่เราเคยกล่าวไว้ในบทความที่แล้ว หากมองกรุงเทพฯ ในเชิงภูมิศาสตร์จะพบว่า กรุงเทพฯ เป็นดั่งพื้นที่รับน้ำที่ไหลมาจากทุกทิศทาง ฉะนั้นชะตากรรมกรุงเทพฯ จำต้องเผชิญหน้ากับมวลน้ำมหาศาลทุกปีเป็นเรื่องปกติ เราจึงมักได้ยินเสียงบ่นของมนุษย์กรุงเทพฯ ว่า “กี่ปีๆ น้ำก็ท่วมอยู่ดีนั่นแหละ” ด้วยความสงสัยของศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) เราจึงไปสืบค้นข้อมูลเพื่อย้อนเวลากลับไปดูในระยะ 12 ปีที่ผ่านมาว่า แท้จริงแล้วมหานครกรุงเทพฯ เผชิญหน้ากับสภาวะน้ำท่วมมาแล้วกี่ครั้งกี่ครากันแน่? ก่อนที่ปี 2560 นี้ กรุงเทพฯ จะต้องเผชิญหน้ากับมันอีกครั้ง จากข้อมูลของ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) พบว่า สภาวะน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครย้อนหลัง 12 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 – 2559 กรุงเทพฯ จมน้ำเพียง 5 ปีเท่านั้น โดยมีการท่วมต่อเนื่อง 4 ปีคือช่วง พ.ศ. […]

มหาสมุทร และ หมุดหมายการพัฒนาเมือง

01/11/2019

“ใครสักกี่คนจะรู้ว่าปอดของดาวเคราะห์โลกที่มอบออกซิเจนให้กับพวกเรามากที่สุดนั้นมาจากมหาสมุทร นอกเหนือจากการเป็นแหล่งอาหาร ยาและต้นกำเนิดทางชีวภาพแล้ว” พวกเราทุกคนดำเนินชีวิตโดยไม่รู้ตัวว่าการกระทำของเรามีผลต่อความสมบูรณ์ของมหาสมุทรอย่างไรและความอุดมสมบูรณ์ของมหาสมุทรมีความสำคัญกับเราอย่างไร  เหตุใดเราถึงต้องเข้าใจอิทธิพลของมหาสมุทรที่มีต่อเราและอิทธิพลของเราต่อมหาสมุทร คนจากพื้นที่ mainland อย่างชั้น เกิดและเติบโตในเขตเมืองหลวงของกรุงเทพมหานคร หากนึกถึงการไปทะเลนั้นคือการไปเที่ยวพักผ่อน ฉันไม่มีทางรู้เลยว่าทุกการกระทำในชีวิตประจำวันส่งผลต่อสภาพของมหาสมุทรเช่นไร จนกระทั่งเกิดการรณรงค์ทั่วโลกเรื่องภาวะโลกร้อนและการลดใช้พลาสติกปรากฎขึ้นพร้อมกับภาพหลอดในรูจมูกของเต่าตัวยักษ์ ขยะส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมของคนในเมือง โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล จากผลการสำรวจโดยทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยจอร์เจีย ปี 2558 ระบุว่า ไทยรั้งอันดับ 5 ของประเทศที่ทิ้งขยะลงทะเลมากที่สุดในโลก ข้อมูลจาก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยอ้างอิงจากผลการสำรวจประเมินจากภาพรวมปริมาณขยะมูลฝอยของประเทศ ในปี พ.ศ.2558 ซึ่งมีจำนวนขยะประมาณ 26.85 ล้านตันต่อปี หรือคิดเป็นปริมาณขยะ จำนวน 1.13 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน โดยมีปริมาณขยะที่ตกค้างเพราะไม่สามารถจำกัดได้ถูกวิธีประมาณ 23 % หรือประมาณ 6.22 ล้านตันต่อปี โดยชายฝั่งทะเล 23 จังหวัดมีปริมาณขยะประมาณ 10 ล้านตันต่อปี ในจำนวนนี้มีประมาณ 5 ล้านตันที่ได้รับการจัดการที่ไม่ถูกวิธี ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า ขยะที่ตกค้างจากการจำกัดขยะที่ไม่ถูกวิธีอีก10 % จะไหลลงสู่ทะเลเท่ากับขยะที่ไหลลงสู่ทะเล 50,000-60,000 ตันต่อปี ซึ่งประเมินว่าในแต่ละปีจะมีขยะพลาสติกในทะเล 50,000 […]

Singapore So Green สร้างเมืองเขียวอย่างไรให้เป็นแบรนด์

31/10/2019

ทุกวันนี้ความเป็นเมืองสีเขียวของสิงคโปร์เป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก แต่ความน่าสนใจจริงๆ ของเรื่องนี้ต้องเริ่มที่ประโยคแท็กไลน์ของแผนการพัฒนาเมืองของสิงคโปร์ที่ว่า ‘Bring the bees and boeings to the City in the Garden’ น่าสงสัยว่าผึ้งกับเครื่องบินโบอิ้งมาเกี่ยวข้องอะไรกัน เรื่องราวเริ่มต้นที่ ‘ที่ดิน’ ปัจจัยการพัฒนาประเทศที่สิงคโปร์มีน้อยกว่าเพื่อน ฉะนั้นการบริหารที่ดินต้องคิดอย่างถ้วนถี่เพื่อให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าที่สุด ส่งผลให้การสร้างแบรนด์ของประเทศออกมาในแนวคิด The Garden City ที่เชื่อมเรื่อง ‘ธรรมชาติ’ กับ ‘ธุรกิจ’ เข้าด้วยกัน ผึ้งในแท็กไลน์คือตัวแทนพื้นที่สีเขียว ส่วนเครื่องบินโบอิ้งคือตัวแทนการพัฒนาเศรษฐกิจและทรัพยากรมนุษย์ พูดง่ายๆ คือสิงคโปร์มองออกว่าคุณภาพชีวิตกับเศรษฐกิจเป็นเรื่องเดียวกัน ทำอย่างหนึ่งต้องได้ประโยชน์อีกอย่างด้วย จากประเทศที่มีขนาดเมืองเล็กกว่าครึ่งของกรุงเทพฯ ทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลายหมดในสมัยอาณานิคม กลายเป็นเมืองที่มีสีเขียวหนาแน่นที่สุดในโลกในอัตรา 30% ของพื้นที่ นี่คือปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นได้จริงด้วยวิธีคิดและนโยบายที่ ‘มาก่อนกาล’ คนทั่วไปรู้ดีอยู่แล้วว่าพื้นที่สีเขียวสำคัญกับสุขภาพคนและสุขภาพเมือง แต่ลองจินตนาการย้อนกลับไปในปี 1967 (พ.ศ. 2510) เวลานั้นลีกวนยูเกิดวิสัยทัศน์จะสร้าง The Garden City เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร ทั้งที่เวลานั้นสิงคโปร์ยังเป็นประเทศโลกที่สามที่มุ่งหน้าไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรม คนกว่าครึ่งค่อนประเทศอาศัยอยู่ในสลัม แม่น้ำลำคลองก็เน่าเสีย สิ่งที่น่าจะมีอิทธิพลต่อความคิดลีคือ ‘อุทยานนคร’ […]

1 7 8 9