Mobility



บทบาทของย่าน La Part-Dieu กับการพา Lyon สู่เมืองชั้นนำในยุโรป

01/11/2019

คงปฏิเสธไม่ได้ว่ายุโรปเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักเดินทางหลายๆคน หรือยิ่งไปกว่านั้นคือความฝันที่จะใช้ชีวิตภายหลังเกษียณ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านสภาพอากาศ ธรรมชาติ ผู้คน ตึกรามบ้านช่องที่ดูสวยงามไปซะหมดเหมือนยกออกมาจากเทพนิยาย หรือหลายคนอาจมองไปถึง “คุณภาพชีวิตที่ดี” ที่หาได้ยากเหลือเกินในบ้านเมืองเรา ที่จริงแล้วใครกันที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการสร้างบ้านเมืองให้น่าอยู่ รัฐ เอกชน หรือประชาชนทุกคน อ่านมาถึงจุดนี้อย่าพึ่งด่วนสรุปถอดใจเพราะเมืองที่ดีคงไม่ได้มาเพราะความบังเอิญแน่นอน            จากสถิติปี 2015 องค์กรที่ปรึกษา ชั้นนำอย่าง PwC ได้จัดอันดับให้เมือง Lyon เป็นเมืองที่น่าดึงดูดสำหรับผู้มาเยือนที่สุดในฝรั่งเศสสามารถเอาชนะเมืองคู่แข่งสำคัญอื่นๆ อาทิ Paris Toulouse Bordeaux ยิ่งไปกว่านั้น ในปีเดียวกันการจัดอันดับเมืองที่น่าอยู่อาศัยที่สุดยังจัดอันดับให้ Lyon ติดอันดับที่ 16 ของเมืองในทวีปยุโรปยังไม่นับสถิติด้านเศรษฐกิจและการลงทุนอื่นๆ อีกมากมายที่เมืองนี้ถูกจัดอันดับให้ใกล้เคียงสูสีกับเมืองชั้นนำอื่นๆ ในทวีป หนึ่งในโครงการสำคัญที่สร้างการเติบโตและพัฒนาอย่างก้าวกระโดดให้เมืองคือโครงการพลิกฟื้นย่านเก่าแก่ด้านพาณิชยกรรมอย่างย่าน LaPart-Dieu ที่ริเริ่มครั้งแรกในช่วงปี 2007-2009 ผ่านการผลักดันอย่างต่อเนื่องของนักการเมืองคนสำคัญ Gérard Collomb (ตำแหน่งปัจจุบัน President of the Lyon metropolis) และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ผ่านการทำงานตลอดจนการเกิดขึ้นของบรรษัทพัฒนาเมือง Société Publique Locale (SPL) หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบและบริหารจัดการโครงการโดยตรง           องค์กร Société Publique Locale  หรือเรียกย่อๆ ว่า SPL คือหน่วยงานที่ร่วมกันก่อตั้งในปี 2014 ถือหุ้นโดย Lyon City และ Metropole de Lyon (เทียบกับบ้านเราก็เปรียบกับหน่วยงานระดับจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ทำหน้าที่ที่ปรึกษาและบริหารจัดการด้านการออกแบบวางผัง การลงทุน การประชาสัมพันธ์โครงการต่อสาธารณชน ทั้งเอกชนที่สนใจมาลงทุนในโครงการและที่สำคัญทำความเข้าใจและรับฟังความต้องการของชาวเมืองและประชาชนในพื้นที่ ดูแลพื้นที่สำคัญขนาด 1.77 ตารางกิโลเมตรอย่างโครงการ La Part-Dieu ที่ได้เกริ่นข้างต้น แต่ทำไมต้องพื้นที่นี้ ย่านนี้สำคัญอย่างไร ? บริเวณ La Part-Dieu เป็นย่านพาณิชยกรรมเก่าแก่ที่ถูกพัฒนาฟื้นฟูมาตั้งแต่ช่วงปี 1960-1970 โดยความหาญกล้าของหน่วยงานท้องถิ่นในการนำค่ายทหารเก่าที่อยู่ใจกลางเมืองติดกับสถานีรถไฟกลาง (Gare de Lyon Part-Dieu) และด้วยทำเลที่ห่างจากศูนย์กลางเมืองเพียง 1.8 กิโลเมตรมาพัฒนาเป็นย่านที่อยู่อาศัยขนาด 2,600 ยูนิตสำหรับประชาชนทั่วไป หลังจากนั้นพื้นที่ขนาด 334 เอเคอร์ หรือ 1.35 ตร.กม. (พื้นที่ก่อนจะเพิ่มขอบเขตและดูแลโดย SPL) ได้ถูกจัดสรรแบ่งโซนและพัฒนาโครงการอื่นๆ […]

WHY WE WALK? – เราเดินเพื่ออะไร?

01/11/2019

เพราะการเดินนับเป็นความสามารถพื้นฐานของมนุษย์ที่จะพาตัวเองไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ ซึ่งนอกเหนือจากการเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งแล้ว การเดินยังมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) จึงอยากรวบรวมประโยชน์ของการเดินแต่ละอย่าง ว่าเราสามารถเดินเพื่อวัตถุประสงค์อะไรได้บ้าง เดินปลดปล่อยความคิด ฌอง ฌาค รุสโซ นักทฤษฎีการเมืองในยุคแสงสว่างทางปัญญาที่ใครหลายคนรู้จักกล่าวว่า‘สมองหยุดคิดเมื่อเท้าหยุดเดิน’การเดินของเขาจึงเปรียบเสมือนการเดินเพื่อค้นพบ เพื่อทบทวน และเพื่อสื่อสารกับตัวเอง สอดคล้องกับงานวิจัยจาก มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในปี 2014 ที่พบว่า 60 % ของความคิดสร้างสรรค์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังจากออกไปเดิน ฉะนั้นเมื่อคุณสมองตันคิดงานไม่ออก ลองปลีกตัวออกไปเดินเล่นๆ รอบบ้านหรือออฟฟิศดูได้นะ เดินประท้วง ย้อนกลับไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 การเดินก็เริ่มมีนัยยะในเชิงการเปลี่ยนแปลงสังคมกันแล้ว มีบันทึกว่า อิมมานูเอล คานท์ นักปรัชญาชาวเยอรมันคนสำคัญของโลก ก็ชอบเดินประท้วงไปรอบๆ ถิ่นที่อยู่อาศัยของเขาแทบทุกวัน ขณะที่ในปัจจุบันการเดินเริ่มเป็นหนึ่งในเครื่องมือของการแสดงพลังทางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่า การเดินกลายเป็นเครื่องมือหนึ่งของสัญญะการประท้วง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในมิติเล็กๆ กระทั่งมิติใหญ่อย่างล้มรัฐบาลมาแล้วในหลายประเทศ เดินเพื่อสื่อสารตัวตน ออนอเร เดอ บาลซัก นักประพันธ์ชื่อดังชาวฝรั่งเศสมองเห็นท้องถนนในศตวรรษที่ 19 เป็นแรงบันดาลใจให้เขาหยิบฉวยช่วงขณะย่างเดินมาเป็นแว่นตาในการศึกษาผู้คนในเมืองและเป็นวัตถุดิบชั้นดีในการเขียนงาน บัลซัค พบว่า การเดินเป็นการสื่อสารตัวตนที่แสดงออกถึงชนชั้นทางสังคม บุคลิก อาชีพ รวมไปถึงมีผลต่อการแต่งกาย ท่วงท่าการเดินของคนเราจึงไม่เหมือนกัน ถนนจึงเต็มไปด้วยความแตกต่างหลากหลายและกลายมาเป็นสีสันสำคัญของเมือง […]

Good Walk – Bad Walk จินตนาการเมืองเดินดี

01/11/2019

เรานึกภาพออกกันไหมว่า หากกรุงเทพมหานครมีทางเดินที่ดี แสงสว่างเพียงพอ ไม่มีสิ่งกีดขวาง และมีบรรยากาศริมทางที่น่าเดิน ชีวิตในเมืองกรุงจะน่าอยู่เพียงใด ถ้าเรามีเมืองที่ผู้คนสามารถเข้าถึงจุดหมายต่างๆ ได้ด้วยการเดิน มีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับการเดิน และเป็นเมืองที่ผู้คนเข้าใจความหลากหลาย สะดวกสบาย ปลอดภัย และรื่นรมย์ เราจะได้ประโยชน์จากบ้านเมืองแบบนี้ และสามารถใช้ชีวิตได้ตามแต่ใจมากขึ้น  นอกจากนี้การเดินยังช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพของสังคมให้มีค่าเฉลี่ยที่ดีขึ้นด้วย เมื่อมนุษย์เดินสองเท้า เราสามารถเข้าถึงสิ่งเล็กน้อยริมทาง เห็นรายละเอียดที่เคยมองข้าม ได้ออกกำลังกาย และสื่อสารตัวตน  ผู้คนมีการแต่งตัวที่แตกต่างตามบุคลิกหรืออาชีพที่หลากหลาย กลายเป็นสีสันให้เมือง และทำให้เราเข้าใจความเป็นมนุษย์มากขึ้น ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) ได้ดำเนิน ‘โครงการเมืองเดินได้-เมืองเดินดี’ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างกระบวนการและกลไกในการเชื่อมโยง ‘นโยบาย’ เข้ากับ ‘พื้นที่’ โดยมีเป้าหมายคือการส่งเสริมให้ผู้คนออกมาเดินกันในชีวิตประจำวัน มุ่งเน้นการสร้างพื้นที่นำร่องเพื่อเป็นพื้นที่ตัวอย่างการพัฒนาเมืองเดินดีให้เกิดขึ้นในประเทศไทย “การแสดงผลงานสาธารณะโครงการเมืองเดินได้-เมืองเดินดี” จัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน 2561 เวลา 13.00-16.30 น. ณ โกดังอเนกประสงค์ริมน้ำ ล้ง 1919 ท่าน้ำเก่าที่ได้รับการเปลี่ยนให้เป็นคอมมิวนิตี้มอลล์แห่งใหม่  ในงานมีแฟชั่นโชว์ที่นำเสนอ good walk กับ bad walk เปรียบเทียบระหว่างชีวิตของผู้คนบนถนนหนทางที่เรียบร้อย เป็นระเบียบ มีร่มเงา เป็นทางเดินมาตรฐาน กับทางเดินที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน สิ่งกีดขวาง […]

ปิดเพื่อเปิดกว้าง ไปกับ Rue de la République ถนนคนเดินที่ยาวที่สุด ณ เมืองลียง ฝรั่งเศส

01/11/2019

ในช่วงตอนต้นของคริสต์ทศวรรษที่ 1990 แนวคิดของการฟื้นฟูเมือง (Urban Regeneration) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการวางแผนพัฒนาเมือง และได้ส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อพื้นที่ และปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตของกลุ่มคนไปตามบริบททางเศรษฐกิจและสังคม โดยแนวคิดพื้นฐานคือ การปรับปรุงสภาพทางกายภาพของเมืองให้มีสภาพที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของสังคมร่วมสมัย ปัจจุบันถนนคนเดินตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ กำลังกลายเป็นกระแสนิยม เพราะนอกจากนักท่องเที่ยวจะเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม เป้าหมายที่มีเพิ่มขึ้นมาคือ การแวะเลือกซื้อสินค้าในท้องถิ่น ด้วยเหตุนี้ถนนคนเดินจึงกลายเป็นตัวเลือกที่สร้างความเพลิดเพลินให้กับนักท่องเที่ยว โดยได้รับแนวคิดจากความต้องการสร้างจุดขายและเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่ ปรับสภาพให้เข้ากับความต้องการของนักท่องเที่ยว รวมทั้งเปิดโอกาสให้คนในชุมชน สามารถนำเอาสินค้าของตนออกมาวางจำหน่าย ถือเป็นการรวมกลุ่มของบรรดาผู้ประกอบการสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับท้องถิ่น สร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน จนบางแห่งกลายเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่ มีสินค้าให้เลือกสรรมากมายหลากหลายประเภท ทั้งสินค้าทางวัฒนธรรม เช่น สินค้าพื้นเมือง หรือแม้กระทั่งอาหารพื้นบ้านที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ยังสามารถกลายมาเป็นต้นทุนทางวัฒนธรรมได้ ทั้งนี้ ถนนคนเดินยังสามารถใช้เป็นพื้นที่จัดแสดง หรือจัดกิจกรรมของท้องถิ่น ทำหน้าที่เปรียบเสมือนเวทีกลางแจ้ง เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรม อัตลักษณ์ เทศกาลและประเพณีของเมืองไปในตัว โดยเดิมพื้นที่ดังกล่าว มีลักษณะผสมผสานระหว่างที่อยู่อาศัย สำนักงาน และพื้นที่สาธารณะ ได้เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของกลุ่มผู้บริหารท้องถิ่นที่จะสร้างสามถนนสายใหม่ นั่นก็คือ ถนน Rue de la République แห่ง Presqu’île เพื่อเชื่อมต่อกับ Place Bellecour ซึ่งเป็นจัตุรัสใจกลางเมืองขนาดใหญ่ของ Presqu’île อันได้แก่ 1. ถนน  Rue Victor Hugo เชื่อมระหว่าง Place Bellecour และPlace Carnot2. ถนน Rue de l’Impératrice และเปลี่ยนเป็นชื่อ Rue de […]

1 4 5 6