Life



เมื่อประสบการณ์ตกรถ กลายมาเป็นไอเดียพัฒนาขนส่งสาธารณะ กับ ‘อินทัช มาศวงษ์ปกรณ์’ ผู้ก่อตั้ง ViaBus

12/06/2023

คุณเคยใช้เวลารอรถเมล์นานที่สุดกี่ชั่วโมง? ไม่แปลกหากจะใช้คําว่า ‘ชั่วโมง’ เพราะใครเดินทางโดยรถเมล์เป็นประจําคงรู้ซึ้งถึงการรอแสนเนิ่นนาน โดยเฉพาะการรอแบบไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมา ที่อาจทําให้ผู้ใช้รถเมล์ตกอยู่ในสถานการณ์ต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง ยอมแพ้เปลี่ยนไปใช้ขนส่งสาธารณะอื่น หรือปักหลักรอจนถึงที่สุดดี แม้ปัจจุบันกรุงเทพฯ จะมีทางเลือกในการเดินทางเพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีต แต่รถเมล์ยังคงเป็นขนส่งสาธารณะพื้นฐานที่มีผู้ใช้ราว 5 แสนคนต่อวัน ปัญหารถเมล์มาช้าจึงกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้คนจํานวนมาก และเกี่ยวเนื่องกับปัญหาจราจรติดขัดที่แก้ไม่ได้อย่างยากลําบาก ซึ่งถ้าหากจะมีวิธีไหนสามารถช่วยได้ การรู้พิกัดรถเมล์อาจทําให้ทุกคนสามารถวางแผนการเดินทางได้สะดวกขึ้น แนวคิดนี้เป็นที่มาของ ‘ViaBus’ แอปพลิเคชันนําทางและติดตามระบบขนส่งสาธารณะแบบเรียลไทม์รายแรกของไทย ที่เพิ่งได้รับรางวัล Forbes 30 under 30 Asia-2021 จากนิตยสารฟอร์บ (Forbes) โดยมีจุดเริ่มต้นจากกลุ่มเพื่อน 3 คน ที่ลุกขึ้นมาตั้งคําถามว่าพวกเขาจะใช้ความรู้ของตัวเองพัฒนาการใช้ขนส่งสาธารณะอย่างไรได้บ้าง วันนี้ The Urbanis ชวน ‘อินทัช มาศวงษ์ปกรณ์’ ประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งแอปพลิเคชัน ViaBus มาพูดคุยถึงประสบการณ์เปลี่ยนความเจ็บใจในการตกรถเมล์มาเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะรอรถอย่างมีความหวัง และเมื่อ Open data และเทคโนโลยีเป็นเทรนด์หนึ่งในการพัฒนาเมืองของโลก อินทัชที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงนี้มีมุมมองอย่างไร เป็นไปได้ไหมที่ทุกคนในฐานะผู้ใช้เทคโนโลยีจะร่วมขับเคลื่อนเมืองไปพร้อมกัน ประสบการณ์ตกรถ จุดประกายแนวคิด ขณะยังเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อินทัชเจอประสบการณ์ตกรถเมล์ที่ให้บริการรอบมหาวิทยาลัยตั้งแต่วันแรกของการเรียน แต่นั่นกลับเป็นแรงผลักดันให้เขาชวนเพื่อนอีกสองคน คือ ธนัทเศรษฐ์ […]

‘ยังธน’ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หยิบความสนุกลุกมาพัฒนาเมือง

20/02/2023

ภาพประกอบ: ยังธน คนธรรมดาอย่างเราจะทําอะไรเพื่อเมืองได้บ้าง? เชื่อว่าในช่วงเวลาที่ประเทศและบ้านเมืองเต็มไปด้วยปัญหาหลากหลายด้าน รอให้รัฐเข้ามาแก้ไข แต่เท่าไหร่ก็เหมือนว่าปัญหานั้นจะไม่ได้รับการมองเห็น หรือหยิบยกมาเป็นประเด็นสําคัญสักที จึงไม่แปลกหากคนที่รอมานานจะอยากลุกขึ้นมาแก้ไขด้วยตัวเอง หนึ่งในนั้นคือ ‘ยังธน’ การรวมกลุ่มกันของคนจากต่างสาขาอาชีพที่มีความสนใจในเรื่องเมืองและเห็นตรงกันว่าจะไม่ทนอีกต่อไป เกิดเป็นเสมือนแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้พลเมืองผู้เป็น active citizen ได้เข้ามาร่วมพัฒนาพื้นที่ชุมชนของตัวเองในมิติต่างๆ เพราะเชื่อในพลังของความคิดสร้างสรรค์และการลงมือทํา พวกเขาจึงเปลี่ยนเอาประเด็นทางสังคมที่ดูเข้าถึงยากมาปรับรูปโฉมใหม่ สื่อสารและสร้างการตระหนักรู้ ผ่านกิจกรรมสนุกๆ ที่คนในชุมชนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้จริง เช่น ยังธนคัพ ที่สื่อสารประเด็นเรื่องพื้นที่สาธารณะผ่านศึกลูกหนังระหว่างชุมชน และเกมท่องธน เกมออนไลน์กระตุ้นเศรษฐกิจในย่านบางกอกใหญ่ที่พวกเขากําลังพัฒนากันอยู่ กระบวนการทํางานเมืองให้ออกมาสนุกและสร้างการตระหนักรู้ให้คนในชุมชนได้จริง ต้องทําอย่างไร ตามไปคุยกับ จั่น-จิรทิพย์ เทวกุล แทน-แทนไท นามเสน บลู-รวิพล เส็นยีฮีม ฟิล์ม-ชญานนท์ เส็นยีฮีม และ ฮิน-ฐากูร ลีลาวาปะ ตัวแทนจากกลุ่มยังธน อะไรคือกระบวนการทํางานของยังธนที่ไม่ว่าจะในโปรเจกต์ไหนๆ เราก็ยึดวิธีการนี้มาเป็นหลักในการทํางาน แทน : น่าจะเป็นกระบวนการมีส่วนร่วม แสดงความคิดเห็น แชร์ไอเดียกัน ซึ่งไม่ใช่แค่ทีมยังธนกับคนในชุมชนนะ แต่ยังรวมถึงคนในทีมด้วยกันเองด้วย เพราะพอเรามีสมาชิกที่มาจากหลากหลายอาชีพ หลากหลายความสนใจ มันก็ต้องประนีประนอมกันในเรื่องของความแตกต่างทางด้านความคิดด้วย จั่น : ความหลากหลายของสมาชิกก็ทําให้เรามีองค์ความรู้อีกสารพัดเลยที่นํามาแชร์ […]

ผู้อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนบนฐานความรู้ ย่านกะดีจีน-คลองสาน

03/02/2023

หลายๆ คนคงรู้จักย่านกะดีจีน-คลองสาน กันอยู่แล้ว ในฐานะย่านที่เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยามาอย่างยาวนาน วันนี้ The Urbanis จะพาทุกคนไปรู้จักย่านนี้ให้มากขึ้นผ่านมุมมองการพัฒนาชุมชนบนฐานความรู้ จากเหล่าผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ เพื่อทำความเข้าใจวิถีชีวิตของชุมชนพื้นที่ริมน้ำที่เป็นย่านที่มีศักยภาพและรายล้อมไปด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ที่สามารถมีองค์ความรู้ชุมชนเป็นของตนเอง จากการศึกษาของศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง พบว่า ย่านกะดีจีน-คลองสาน มีสาธารณูปโภคเพื่อการศึกษาและการเรียนรู้ครอบคลุมพื้นที่มากถึงประมาณร้อยละ 85 ของพื้นที่ย่าน (อ่านเพิ่มเติมได้ที่: รู้จักเมือง รู้จักย่านกะดีจีน-คลองสาน) สะท้อนให้เห็นถึง ศักยภาพของย่านกะดีจีน-คลองสาน ในการเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ จากการมีแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาของเมือง มากไปกว่านั้นผู้คนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้เองก็นำองค์ความรู้เหล่านั้นมาต่อยอดและพัฒนาศักยภาพของตนเอง พร้อมกับนำความรู้มาพัฒนาชุมชน ก่อนอื่นขอแนะนำ 3 ผู้นำชุมชนและ 1 ลูกบ้าน ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาชุมชนย่านกะดีจีน-คลองสาน ผ่านองค์ความรู้และการประสานงานความร่วมมือ คุณปิ่น หรือ ปิ่นทอง วงษ์สกุล ประธานชุมชนกุฎีจีน ที่ทำหน้าที่นี้มากว่าเกือบ 10 ปี พี่ปิ่นเล่าว่าบทบาทหลักๆ ที่ตนรับผิดชอบคือคอยสอดส่องดูแลและแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับคนในชุมชน รวมถึงคอยประสานงานกับลูกบ้าน ภาครัฐ รวมถึงภาคเอกชนที่เข้ามาในพื้นที่ด้วยเช่นกัน “การทำงานทุกขั้นตอนจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากคนในชุมชนไม่ให้ความร่วมมือหรือจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมที่รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของในสิ่งที่เป็นสาธารณะในสิทธิที่จะดูแลและบำรุงรักษาร่วมกัน”  เช่นเดียวกับ เฮียเซี๊ยะ สัมฤทธิ์ เอื้อโชติ ประธานชุมชนสวนสมเด็จย่า ที่บอกเปรียบตนเองเสมือนเป็นสื่อกลางในการพัฒนา เพราะต้องคอยทำหน้าที่ประสานทุกฝ่าย ทุกหน่วยงานเข้าด้วยกัน และเฮียล้าน วรชัย วิลาสรมณ์ ประธานชุมชนวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ที่มองบทบาทตนเองในฐานะประธานชุมชนไว้ว่า […]

คุยเรื่องการเปลี่ยนแปลงเมืองที่เริ่มจาก “ความร่วมมือของคนหลายกลุ่ม” กับ ตุลย์ ปิ่นแก้ว

24/01/2023

การเดินทางมาบรรจบกันระหว่างหลายสิ่งหลายอย่างในพื้นที่เขตเมืองอย่างกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นผู้คน ข้าวของ สื่อ เงินทุน และความคิดต่างๆ อย่างหลากหลายรูปแบบนั้น มาพร้อมกับความแปลกใหม่ สร้างสรรค์ และน่าค้นหา แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ก็มักจะมาพร้อมกับความไม่ปลอดภัย และที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะมีหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา นักวิชาการ ภาคธุรกิจ หน่วยงานรัฐ และองค์กรอิสระทั้งในและระหว่างประเทศ จะมาช่วยกันหาแนวทางในการแก้ไข แต่จนแล้วจนรอด ความไม่ปลอดภัยในเมืองก็ยังมีให้เห็นและถูกนำเสนอผ่านหน้าสื่ออยู่เสมอ ในเมื่อมีผู้คนและองค์กรจำนวนหนึ่ง ที่มาพร้อมกับความสามารถที่หลากหลาย และต้องการทำอะไรบางอย่างเพื่อสังคม แต่ยังไม่ทันได้รู้จักกันมากพอนั้น ด้วยเหตุนี้ “ตุลย์ ปิ่นแก้ว” ในฐานะผู้ก่อตั้ง และผู้อำนวยการด้านการวางแผนยุทธศาสตร์ของ SideKick จึงให้ความสนใจมาทำหน้าที่เป็น “คนตรงกลาง” ที่จะเข้ามาช่วยและอยู่เหลือหลังให้กับภาคส่วนต่างๆ SideKick กับบทบาทในฐานะ “คนตรงกลาง” “เราทำหน้าที่เหมือนเป็นคนตรงกลาง ที่คอยช่วยองค์กรเหล่านี้ ที่เขาเก่งเรื่องงานวิชาการอยู่แล้ว เก่งเรื่องงานภาคสนาม จะทำอย่างไรให้งานของเขาสื่อสารกับประชาชน แล้วก็สร้างการมีส่วนร่วมให้ง่ายขึ้น เข้าถึงคน อีกส่วนนึ่งก็คือการทำงานเรื่องของการวางแผนนโยบาย ช่วยในเรื่องของ ถ้าเราจะสื่อสารประเด็นทางสังคมไปสู่ผู้กำหนดนโยบาย จะทำอย่างไงให้สามารถเข้าใจได้ และเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ อันนี้คือหน้าที่หลักของ SideKick” […]

เล่าประวัติศาสตร์อาหาร ผ่านรสชาติที่คุ้นเคย

18/01/2023

หากพูดถึงสถานที่ที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์เกี่ยวกับชุมชนกุฎีจีน หนึ่งในสถานที่ที่หลายคนต้องนึกถึง คือ “พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน” สถานที่ที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ของชุมชนชาวโปรตุเกสในประเทศไทย ก่อตั้งโดย “อาตอง” หรือ “คุณนาวินี พงศ์ไทย (ทรรทรานนท์)” หนึ่งในตระกูลที่มีเชื้อสายสืบทอดจากทหารโปรตุเกส หลานของคุณย่าเล็ก หรือ Avô – โว แปลว่าคุณย่าในภาษาโปรตุเกส ผู้เป็นเจ้าของเรือนแห่งนี้ ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีการตกแต่งให้เหมือนสมัยรุ่นปู่ย่าตายายมากที่สุด และเต็มไปด้วยของใช้ ภาพความทรงจำ รวมไปถึง “อาหาร” ที่ทานกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ราวกับว่าได้หลุดเข้าไปอยู่ในช่วงเวลาเหล่านั้น และวันนี้เราได้มีโอกาสมาทำความรู้จักกับ “อาตอง” เจ้าของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ พร้อมพูดคุยถึงเรื่องราวอาหารโปรตุเกสในความทรงจำ และการทำพิพิธภัณฑ์ เพื่อส่งต่อความทรงจำผ่านเมนูอาหารพิเศษ และพื้นที่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชุมชน ความทรงจำอาหารของอาตอง ภาพจาก Love Kadeejeen-Khlongsan “แต่ก่อนคนกุฎีจีนจะทำอาหารโปรตุเกสได้แทบทุกบ้าน ทานเหมือนกันหมด หลังๆ เริ่มย้ายออกไป เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้ทำ แต่ด้วยความที่เราทานกันมาตั้งแต่เด็ก เลยไม่อยากให้มันหายไป รสชาติโบราณเราจะคุ้นเคยกันดี จุดไหนที่รู้สึกยังไม่ใช่รสเดิม ก็จะปรุงให้เหมือนที่สุด อาหารที่ทำจะมีรสชาติไม่ต่างจากเดิม เพราะพยายามทำให้เหมือนเดิมที่สุด ถ้าคนที่ไม่เคยทานรสนี้ตั้งแต่เด็กก็จะทำออกมาไม่ได้รสที่ทานกันอยู่ เมื่อพูดถึงเรื่องของรสชาติ ทำไม่เหมือน ก็ไม่เป็นไร แต่การเล่าเรื่อง ประวัติศาสตร์ของอาหารก็จะเปลี่ยนไปด้วย […]

กฎหมายอากาศสะอาด ทางออกของเมืองรมฝุ่น กับ รศ.ดร.คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม

21/06/2022

“คนไทยทุกคนกำลังมีอายุขัยสั้นลง 1.8 ปี” นี่ไม่ใช่การสาปแช่ง แต่เป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องเผชิญ หากอากาศที่เราสูดหายใจเข้าไปทุกวันยังคงมีระดับมลพิษสูงกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำถึง 5 เท่า มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาที่พบได้โดยทั่วไปในเมืองใหญ่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่มีระดับมลพิษทางอากาศสูงเป็นอันดับ 4  ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงก็คือ ‘ประชาชน’ และข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ให้เห็นว่ามลพิษทางอากาศคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกก่อนวัยอันควรไปประมาณ 7 ล้านคนต่อปี ทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมตามมา  เมื่อทุกชีวิตขึ้นอยู่กับอากาศที่สูดเข้าไป นักวิชาการหลากหลายสาขาและภาคประชาชนที่ไม่อาจนิ่งเฉย จึงรวมกลุ่มกันก่อตั้ง ‘เครือข่ายอากาศสะอาดประเทศไทย (Thailand CAN)’ ขึ้นมา เพื่อหาทางออกให้แก่เรื่องนี้ จนกลายมาเป็นการเสนอร่าง พ.ร.บ.กำกับดูแลการจัดการอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพแบบบูรณาการ พ.ศ. … หรือ ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ที่เพิ่งยืนเสนอต่อรัฐสภาเมื่อเดือนมกราคมปี 2565  ระหว่างกำลังเฝ้ารอการพิจารณาว่า ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ฉบับนี้ที่มีประชาชนร่วมเสนอชื่อกว่า 26,500 รายชื่อ จะถูกปัดตกหรือไม่   The Urbanis ชวน ‘รศ.ดร.คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม’ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อม และผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายอากาศสะอาด […]

‘รัฐต้องเชื่อมและเชื่อในภาคประชาสังคม’ – คุยกับ ครูแอ๋ม ศิริพร พรมวงศ์ แห่งกลุ่มคลองเตยดีจัง กับสายตาที่มองเห็นศักยภาพของพลเมือง

11/04/2022

ถึงจะไม่อยากฉายภาพซ้ำ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชุมชนคลองเตยคือหนึ่งในชุมชนที่สะท้อนความเหลื่อมล้ำในกรุงเทพมหานครได้ชัดเจน ท่ามกลางความเจริญของย่านธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า และคอนโดมิเนียมสวยหรู ในรั้วข้างเคียงกันนั้นคือแหล่งอยู่อาศัยและทำกินของประชาชนคนจนเมืองกว่าหนึ่งแสนคน ที่พวกเขาต้องต่อสู้กับปัญหาการไล่รื้อที่ดิน ยาเสพติด การศึกษา และความยากจนที่มีมาอย่างยาวนาน ไม่แปลกหากคลองเตยจะเป็นชุมชนที่มีอาสาสมัคร มูลนิธิไปจนถึงภาคเอกชนเข้ามาลงมือปรับเปลี่ยนช่วยเหลือให้ชุมชนอยู่ดีกินดีขึ้น แต่ความพิเศษของชุมชนคลองเตยคือพวกเขาไม่ได้มองตัวเองเป็นผู้รับ แต่ยังเป็นพลเมืองที่มีจิตสำนึกประชาธิปไตยรวมกลุ่มต่อสู้สิทธิที่ควรได้จากรัฐอย่างเข้มแข็ง และยังเป็นต้นแบบโมเดลการจัดการวิกฤตโควิด-19 ที่ริเริ่มจากคนในชุมชนกันเองโดยไม่รอความช่วยเหลือจากภาครัฐและส่วนกลาง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใต้ความคิดริเริ่มของอาสาสมัครกลุ่ม ‘คลองเตยดีจัง’ จากกลุ่มอาสาสมัครที่ทำกิจกรรมสอนดนตรี ศิลปะ และจัดเทศกาลสร้างสรรค์ให้ชุมชนคลองเตยครึกครื้น ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นแพลตฟอร์มเชื่อมโยงความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภายนอกและภายในชุมชน เพื่อร่วมต่อสู้วิกฤติโรคระบาดไปด้วยกัน พลังพลเมืองสำคัญอย่างไรในการต่อสู้กับหลุมปัญหาความเหลื่อมล้ำในกรุงเทพมหานคร ที่ยิ่งเห็นลึกชัดเจนมากขึ้นในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา เราชวน แอ๋ม-ศิริพร พรมวงศ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มอาสาสมัครคลองเตยดีจัง มาเล่าให้ฟังถึงสิ่งที่เธอทำและความเชื่อมั่นในพลังของคนธรรมดา ที่เธอบอกว่าไม่ได้มีอยู่แค่ในคลองเตย แต่ไม่ว่าจะชุมชนไหนๆ ก็มีเหมือนกัน จุดเริ่มต้นของกลุ่มอาสาสมัคร ‘คลองเตยดีจัง’ เป็นมาอย่างไร และมีการพัฒนาอย่างไรบ้างช่วงที่ผ่านมา กลุ่มเราเริ่มมาประมาณ 9 ปีแล้วตั้งแต่ปี 2556 ตอนแรกก็รวมตัวจากกลุ่มเพื่อนๆ กันเอง รับบริจาคเครื่องดนตรีแล้วไปสอนให้เด็ก จากนั้นก็พัฒนากิจกรรมเรื่อยๆ จนมาจัดเป็นเทศกาลดนตรีและศิลปะ ‘คลองเตยดีจัง’ พอเราคลุกคลีกับเด็กๆ ในชุมชนมากขึ้นก็เริ่มเห็นปัญหาอื่นๆ เช่น ปัญหาครอบครัว การออกจากระบบการศึกษากลางคัน ความยากจน เราเลยพยายามออกแบบกิจกรรมหรือโปรเจกต์เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วย […]

เมืองไม่สะดวกยิ่งทำให้คนพิการรู้สึกเป็นอื่น ‘หนู’-นลัทพร ไกรฤกษ์’ บรรณาธิการเพจ ThisAble.me

30/03/2022

เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยมีประสบการณ์หงุดหงิดกับปัญหาเดินบนฟุตพาทที่พื้นไม่ราบเรียบ ต้องคอยหลบสิ่งกีดขวางซ้ายขวา ราวกับบททดสอบก่อนไปถึงจุดหมาย แต่สำหรับคนพิการ พวกเขาอาจต้องอ้อมไกลนับกิโลเพื่อไปยังจุดหมายเดียวกัน หรือเลวร้ายกว่านั้นคือ ไม่สามารถเดินทางไปได้เลย การพาผู้อ่านตระเวนไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ด้วยวีลแชร์ของ ‘หนู-นลัทพร ไกรฤกษ์’ บรรณาธิการเพจ ThisAble.me สื่อออนไลน์ที่นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับคนพิการ สะท้อนให้เห็นว่าการดำเนินชีวิตประจำวันของคนพิการยากลำบากเพียงใด และเมื่อเมืองไม่เป็นใจคนพิการยิ่งขาดโอกาสในการใช้ชีวิตนอกบ้าน ซึ่งเกี่ยวพันธ์ตั้งแต่การประกอบอาชีพ การหาประสบการณ์ใหม่ ตลอดจนการเข้าสังคม  ประสบการณ์เคยไปใช้ชีวิตอยู่สหรัฐอเมริการะยะหนึ่งของหนู ทำให้เธอเห็นความต่างอย่างชัดเจนว่าเมืองที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ทุกคน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น แต่ยังทำให้คนพิการไม่รู้สึกเป็นอื่นในสังคม จนเธอถึงกับเอ่ยปากว่า “มันเป็นความรู้สึกชัดเจนที่สุดถึงการมีชีวิตที่เป็นปกติ” เมื่อปัจจุบันประเทศไทยมีผู้พิการอยู่ถึง 2,102, 384 คน (ข้อมูล วันที่ 31 ธ.ค 64 จากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ) The Urbanis จึงชวนหนู ผู้เป็นทั้งคนพิการ และผู้เคลื่อนไหวประเด็นนี้ผ่านการทำสื่อ มาบอกเล่าผลกระทบจากเมืองที่คนพิการต้องเผชิญ พร้อมตั้งคำถามว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่เมืองจะออกแบบโดยคำนึงการใช้งานที่รองรับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เพราะคนพิการก็นับเป็นพลเมืองคนหนึ่งของสังคม  ชีวิตประจำวันที่ไม่เคยง่ายของคนพิการ เมื่อถามถึงความยากลำบากในการดำเนินชีวิตประจำวันในกรุงเทพฯ สำหรับคนพิการ หนูเริ่มเล่าให้ฟังว่าแต่ละประเภทความพิการพบความยากลำบากในการใช้ชีวิตต่างกันออกไป ทว่าคนที่นั่งวีลแชร์หรือคนใช้ไม้ค้ำยันอาจจะเห็นภาพชัดที่สุดว่า สภาพเมืองของเราไม่ได้เอื้อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่าง สะดวก ปลอดภัย และรวดเร็ว  “ความพิการของตัวเขากลายมาเป็นข้อจำกัดของการใช้ชีวิตหรือการมีส่วนร่วมกับสังคม […]

‘พลเมืองส่งเสียงให้รัฐได้ยินได้’ ผศ.ดร.เขมกร ไชยประสิทธิ์ กับสวนเจริญประเทศ พื้นที่สีเขียวกลางเมืองเชียงใหม่จากพลังของประชาชน

25/03/2022

เสียงของประชาชนจะส่งไปถึงรัฐบาล และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้จริงไหม? นี่อาจเป็นคำถามที่พลเมืองอย่างเราสงสัยเมื่อต้องเรียกร้องอะไรบางอย่างจากรัฐ และหลายครั้ง เรามักคิดว่าประชาชนคนธรรมดาจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่การเกิดขึ้นของ ‘สวนเจริญประเทศ’ สวนสาธารณะกลางเมืองแห่งแรกที่เกิดจากพลังประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ย้ำกับเราว่าเสียงของประชาชนมีความหมายมากกว่าที่คิด และนำไปสู่ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมจนน่าเล่าต่อ พื้นที่สีเขียวขนาด 9 ไร่ 3 งาน 33 ตารางวานี้ เกิดขึ้นจากการรวมพลังกันของประชาชนและภาคประชาสังคมในจังหวัดเชียงใหม่ ที่คัดค้านการนำพื้นที่ไปสร้างเป็นบ้านพัก 900 ยูนิตสำหรับข้าราชการรายได้น้อยของกรมธนารักษ์ สองเหตุผลหลักๆ ที่ชาวบ้านใกล้เรือนเคียงบนถนนเจริญประเทศคัดค้านคือ ถนนเส้นนี้เป็นที่ตั้งของโรงเรียน 4 แห่งในเชียงใหม่ที่เดิมทีก็มีการจราจรติดขัดมากจนชาวเมืองอยากจะเลี่ยงอยู่แล้ว และ สอง นอกจากจะเป็นชุมชมบ้านเรือนที่อยู่ร่วมกับศาสนสถานของทุกศาสนา ที่ดินนี้คือปอดแห่งสุดท้ายกลางเมืองเชียงใหม่ที่ถ้าเปลี่ยนไปเป็นคอนโดมิเนียม ชาวเมืองก็คงไม่มีสวนที่คอยฟอกอากาศดีๆ ให้อีก เบื้องหลังกระบวนการต่อสู้เพื่อสวนเจริญประเทศนั้นน่าสนใจยิ่งตรงที่มันคือการทำงานร่วมกันของประชาชนชาวเชียงใหม่ ภาคประชาสังคมกว่า 30 หน่วยงาน รวมไปถึงหน่วยงานของรัฐบาลเอง เรื่องน่าทึ่งคือกระบวนการตั้งแต่เริ่มเจรจากับภาครัฐ ค้นคว้าข้อมูลเพื่อคัดค้าน ทำกิจกรรมรณรงค์ เผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อมวลชนจนกรมธนารักษ์ยอมยุติโครงการก่อสร้างเกิดขึ้นภายใน 10 วันเท่านั้น สิ่งนี้สะท้อนได้ว่าจิตสำนึกพลเมืองของชาวเชียงใหม่นั้นแข็งแกร่งจนน่าเอาอย่าง The Urbanis ชวน ผศ.ดร.เขมกร ไชยประสิทธิ์ นายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัยในขณะนั้น ผู้เป็นตัวแทนจากภาคประชาสังคมที่ทำงานโครงการนี้ มาเล่าให้ฟังถึงกระบวนการรักษาผืนดินกลางเมืองและเปลี่ยนให้เป็นสวนสาธารณะกลางเมืองของชาวเชียงใหม่ เพื่อหาคำตอบว่าอะไรทำให้เสียงของพลเมืองถูกได้ยิน ที่มาที่ไปและกระบวนการต่อสู้ของประชาชนชาวเชียงใหม่และภาคประชาสังคมเพื่อให้เกิดสวนเจริญประเทศ เป็นมาอย่างไร […]

Zero Waste เกตุไพเราะ 3,4,5 และบทบาทผู้พัฒนาชุมชนเมือง กับคุณสุธี มากพิชัย

17/03/2022

จากข้อมูลปริมาณขยะมูลฝอยของปีงบประมาณพ.ศ. 2564 พบว่ากรุงเทพมหานครมีปริมาณขยะสูงถึง 8,674.73 ตัน ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่ากรุงเทพฯ จะกลายเป็นเมืองขยะจริงไหม ? จากการที่เราเห็นขยะกองสูงที่ล้นอยู่ข้างริมฟุตบาท พร้อมเพื่อนซี้หนูท่อคู่ใจที่มักจะโผล่มาจากกองเหล่านั้นทุกวันในตอนที่เดินกลับจากที่ทำงาน บ้าน โรงเรียน  มองไปทางไหนก็ไม่สบายตา คิดว่าหลายคนคงจะรู้สึกอยากให้สิ่งไม่น่าอภิรมย์เหล่านี้หายไป   แล้วถ้าจะให้กรุงเทพฯ กลายเป็น ‘เมืองปลอดขยะ’ จะสามารถเกิดขึ้นอย่างไรได้บ้าง ? หากลองคิดเล่น ๆ ว่า เขตทุกเขต ชุมชนทุกชุมชนในกรุงเทพมหานคร สามารถจัดการขยะภายในพื้นที่ของตนเองได้ คำว่าเมืองปลอดขยะคงจะเกิดขึ้นได้ในไม่ช้า แต่การจัดการขยะมหาศาลเหล่านั้นจะสามารถเริ่มต้นได้ที่เราจริงหรือ ? จะมีพื้นที่ไหน หรือชุมชนแบบไหนที่สามารถเริ่มจัดการปัญหานี้ได้  หลายคนคงจะนึกไม่ออกว่าชุมชนเล็ก ๆ จะสามารถจัดการขยะภายในพื้นที่ของตนเองได้อย่างไร   วันนี้ The Urbanis จะพามารู้จักกับชุมชนเกตุไพเราะ 3,4,5 ชุมชนที่อยู่คู่กับการพัฒนาชุมชนเมืองกรุงเทพ ฯ และการเจริญเติบโตของย่านพระโขนง-บางนา มานานนับกว่าหลายสิบปี มีดีกรีในเรื่อง ‘การจัดการบริหารตัวเอง’ และได้รับการการันตีว่าเป็น ‘ชุมชนปลอดขยะ’ หรือ ‘Zero Waste’ ผ่านบทความสัมภาษณ์เชิงลึกกับ คุณสุธี มากพิชัย เลขาและคณะกรรมการชุมชนเกตุไพเราะ 3,4,5 ผู้ร่วมพัฒนาชุมชนพร้อมบทบาท […]

1 2 3 9