17/04/2020
Public Realm

Coronavirus : เทคโนโลยีดิสรัปชั่นแบบทวีคูณ ที่อาจส่งผลต่อเมือง

ดุษฎี บุญฤกษ์
 


ขอเริ่มต้นด้วยข้อสังเกตที่ปัจจุบันพบว่ามีความเป็นไปได้สูง ผนวกกับสถานการณ์ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ 

“การเกิดโคโรนาไวรัส (Coronavirus) อาจมีนัยสำคัญถึงการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย ในมุมมองการวิเคราะห์ถึงการดิสรัปชั่นของเทคโนโลยี”

เหตุใดจึงกล่าวเช่นนั้น? แล้วทำไมนักออกแบบเมืองถึงให้ความสำคัญต่อเหตุการณ์หรือสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเกิดโรคระบาด (Pandemic) ของโคโรนาไวรัส (Coronavirus) และการเข้ามาดิสรัปชั่นของเทคโนโลยี (Technology disruption) ทั้ง ๆ ที่ผู้คนกลุ่มนี้ทำอยู่ก็เพียงแค่ออกแบบเชิงกายภาพเท่านั้น

รูปแบบทางกายภาพมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมมนุษย์ รวมถึงวิธีการทำงานของเมืองยังมีความสอดคล้องกับรูปแบบการใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันไม่สามารถเอาปัจจัยการเข้ามาดิสรัปชั่นของเทคโนโลยีออกจากกระบวนการคิดในการออกแบบเมืองได้เลย การเข้ามาของเทคโนโลยีอาจทำให้การออกแบบเปลี่ยนแปลงไปบ้าง และได้ส่งผลอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าพื้นที่ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สาธารณะอาจจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่ชัดเจน แต่รูปแบบเชิงธุรกิจหรือห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ได้ปิดตัวหรือทำยอดขายได้น้อยลง เนื่องจากมีการเข้าถึงเทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้น กับความสะดวกรวดเร็วของการขนส่ง ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และอาจจะส่งผลต่อวิถีชีวิตประจำวัน

แล้ว Coronavirus เกี่ยวอะไรกับ Technology Disruption?

การเข้ามาของเทคโนโลยีดิสรัปชั่นในปัจจุบัน (ก่อนเกิดโรคระบาดโคโรนาไวรัส) สามารถมองเห็นได้ประหนึ่งว่าสังคมเมืองในปัจจุบันกำลังก้าวข้ามไปสู่ยุคสมัยของเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ 5G บล็อกเชน (Block chain) ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence) ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) หรือพาหนะไร้คนขับ (Autonomous vehicles) ที่มีทิศทางในการพัฒนาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ผนวกกับเมื่อเกิดเหตุการณ์เกิดโรคระบาดโคโรนาไวรัส เทคโนโลยีอาจจะถูกนำมาใช้ในกระบวนการพัฒนาเมืองอย่างเต็มรูปแบบ กล่าวคือ แต่เดิมแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีก่อนการเกิดโคโรนาไวรัสก็มีโอกาสสูงอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดสภาวะโรคระบาดดังกล่าวยิ่งเป็นการตอกย้ำสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของการเข้ามาใช้เทคโนโลยีมาเป็นในตัวขับเคลื่อนเมือง

ปรากฏการณ์ดังกล่าว เห็นได้จากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้าในประเทศจีนภายใต้สภาวะการเกิดโรคระบาด ซึ่งถูกมองว่าเป็นโอกาสในการทำการค้าในรูปแบบของเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น โดยสถานการณ์ดังกล่าวพลิกโฉมวิธีการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีของชาวจีนโดยสิ้นเชิงเพื่อหลีกเลี่ยงการติดไวรัส รวมถึงเพื่อลดการพบปะในพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ทำให้ชาวจีนต่างปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและหันมาลองบริการเสมือนจริงผ่านออนไลน์มากขึ้น พลิกโฉมเทคโนโลยีของจีนสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

โดยเทคโนโลยีที่เข้ามาเป็นตัวช่วย สามารถตอบโจทย์สภาวะการเกิดโรคระบาดและสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ในหลายรูปแบบ ก่อให้เกิดการตั้งคำถามว่า หากเมื่อโรคระบาดโคโรนาไวรัสผ่านพ้นไป รูปแบบของเทคโนโลยีจะเข้ามาเป็นส่วนเปลี่ยนแปลงในมิติใดบ้าง

การดิสรัปชั่นของเทคโนโลยีแบบทวีคูณ ส่งผลกระทบอย่างไรต่อเมือง?

แน่นอนว่าเมืองย่อมมีการเปลี่ยนแปลง หรืออาจกล่าวได้ว่าอาจมีการปฏิวัติรูปแบบของการเกิดเมืองรูปแบบใหม่ ภายใต้แว่นตาของนักออกแบบเมืองถือเป็นความท้าทายของการพัฒนาเมืองที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่สาธารณูปโภคและสาธารณูปการในปัจจุบันอาจไม่ตอบโจทย์ หากเกิดยุคสมัยของเทคโนโลยีเกิดขึ้นมาจริง ๆ

ฉะนั้น ‘การดิสรัปชั่นของเทคโนโลยี’ คงไม่เป็นการกล่าวเกินเลยไปแต่อย่างใด หากย้อนรอยจากอดีต จะเห็นว่ายุคปฏิวัติอุตสาหกรรมเกิดกระบวนการกลายเป็นเมือง สาธารณูปโภคและสาธารณูปการในสมัยก่อนยุคสมัยดังกล่าวไม่สามารถนำมาใช้เพื่อตอบโจทย์ของยุคสมัยใหม่ได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกิดขึ้นเพื่อรองรับการวิวัฒนาการของเมืองและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป

ถึงแม้ยุคสมัยของเทคโนโลยีอาจจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่เราคงไม่สามารถเข้าไปใช้ชีวิตในโลกเสมือนที่เราจะใช้พื้นที่ในระบบออนไลน์ในการใช้ชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและอาจเกิดขึ้นได้ แต่ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการใช้สาธารณูปโภค และสาธารณูปการได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่พบเจอได้ง่ายที่สุดเห็นจะเป็นระบบเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing economy) ที่ใช้แนวคิดการเป็นเจ้าของร่วมเพื่อลดต้นทุนในการเข้าถึงหรือใช้งาน ซึ่งเกิดขึ้นมาพร้อมกับยุคสมัยของการเข้ามาของเทคโนโลยี

จึงเป็นข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่า 

ในฐานะนักออกแบบเมืองเราควรปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านั้นได้อย่างไร

บางสำนักอาจกล่าวถึงมิติทางกายภาพที่อาจส่งผลต่ออนาคตว่า สุดท้ายแล้วมนุษย์เป็นประเภทที่ต้องการสังคม พื้นที่ทางกายภาพอาจไม่เปลี่ยนแปลงเท่าใดนัก แต่ใครจะไปรู้ หากเทคโนโลยีสามารถสร้างโลกเสมือนได้ อาจทำให้พื้นที่กายภาพไม่ว่าจะเป็น สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้าที่ให้ผู้คนพบปะกันอาจจะไม่ถูกใช้งานเลยก็เป็นได้

ดังนั้น ในฐานะนักออกแบบเมือง การออกแบบอย่างสอดคล้องและตอบรับของการเข้ามาของยุคสมัยของเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของการเปลี่ยนแปลงการเข้ามาดิสรัปชั่นของเทคโนโลยีภายใต้โรคระบาดผ่านพ้นไป คือ ทฤษฎีการพัฒนาเมืองในหลากหลายทฤษฎีอาจไม่สามารถนำมาใช้ได้แล้ว เนื่องจากฐานวิธีคิดของยุคสมัยใหม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไป

ทุกครั้งหลังโรคระบาดจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางสังคม

อดีตได้สอนและแอบบอกความนัยว่า การปฏิวัติผังเมืองทุกครั้งมีจุดกำเนิดจากโรคระบาด และทุกครั้งหลังโรคระบาดจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางสังคม จึงเป็นการตอกย้ำอีกครั้งในข้อโต้แย้งของนัยยะแอบแฝงของการเกิดโรคระบาดโคโรนา กับยุคสมัยใหม่ของเทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่นักออกแบบเมืองควรตระหนักและเป็นโจทย์สำคัญของการพัฒนาเมืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

บทความ “Coronavirus : เทคโนโลยีดิสรัปชั่นแบบทวีคูณ ที่อาจส่งผลต่อเมือง” ผลิตภายใต้ความร่วมมือระหว่าง ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC-CEUS) และ สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)


Contributor