“ขนมฝรั่ง โบสถ์ซางตาครู้ส ชุมชนกุฎีจีน” เทศกาลคริสต์มาสฉบับชาวย่านกะดีจีน-คลองสาน

07/12/2020

ลมหนาวพัดมาเป็นสัญญาณว่าเริ่มเข้าฤดูเทศกาล และหนึ่งในเทศกาลสำคัญของชาวคริสต์ทั่วโลกคงหนีไม่พ้น ‘คริสต์มาส’ ที่เต็มไปด้วยสีสันทั้งมิติวัฒนธรรม ความเชื่อ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยตลอดช่วงเวลามงคล แน่นอนว่า ‘กะดีจีน-คลองสาน’ ย่านเก่าแก่ที่เป็นสถานพำนักของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกซึ่งเก่าแก่และใหญ่เป็นลำดับต้นๆ ของไทยจึงย่อมมีสีสันน่าสนใจไม่แพ้ใคร โดยเฉพาะในชุมชนกุฎีจีนที่มีโบสถ์เก่าอย่างซางตาครู้สเป็นศูนย์รวมศรัทธาและสานสัมพันธ์ของชาวย่านมานานหลายร้อยปี คราวนี้เราจึงอยากชวนมาชมสีสันวันคริสต์มาสในย่านเก่า ผ่านรสชาติของอาหารที่มีต้นทางมาจากชาวคาทอลิกเชื้อสายโปรตุเกส ที่พิเศษทั้งเรื่องของรสชาติและเรื่องราว เริ่มจาก ‘ขนมฝรั่งกุฎีจีน’ ที่หลายคนคงคุ้นชื่อและรส ทว่าบางคนอาจยังไม่รู้ว่าต้นทางของขนมฝรั่งนั้นเกี่ยวพันกับเทศกาลคริสต์มาสอย่างน่าสนใจ เพราะมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์สายหนึ่งระบุว่าขนมฝรั่งกุฎีจีนมีพัฒนาการมาจาก ‘King’s Cake’ ขนมเค้กโรยน้ำตาลเชื่อมที่ชาวยุโรปนิยมทำกินกันช่วงหลังเทศกาลคริสต์มาส มีกิมมิคน่าสนใจอยู่ตรงเนื้อขนมจะซ่อนสัญลักษณ์เกี่ยวข้องกับพระราชาเล็กๆ เอาไว้ให้ผู้ร่วมล้อมวงกินเค้กลุ้นกันว่าให้จะได้ไป และได้เป็นพระราชาในงานฉลองวันนั้น เมื่อรสนิยมการกินเค้กติดสอยห้อยตามพ่อค้าชาวโปรตุเกสมาถึงสยาม จากขนมเค้กโรยน้ำตาลเชื่อมก็ปรับเป็นขนมเค้กเนื้อร่วนทำจากแป้งสาลี ไข่เป็ด และน้ำตาลทราย กลายเป็นขนมฝรั่งที่อบด้วยเตาถ่านโบราณที่ให้กลิ่นหอมเป็นพิเศษ และเป็นขนมที่จะปรากฎตัวบ่อยครั้งในหน้าเทศกาลงานมงคลของคริสตชนชาวย่านมาตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้ นอกจากขนมฝรั่ง สีสันของย่านกะดีจีน-คลองสานช่วงเทศกาลคริสมาสต์ยังรวมถึงการตกแต่งประดับประดาบ้านเรือนบริเวณใกล้กับโบสซางตาครู้สด้วยรูปพระคริสต์หรือพระแม่มารี รวมถึงต้นคริสมาสต์สีสดใสที่ช่วยให้บรรยากาศชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาคึกคักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะวันคริสต์มาสอีพ ที่โบสถ์ซางตาครู้สจะมีกิจกรรมให้ชาวย่านได้ร่วมทั้งในแง่พิธีกรรมทางศาสนา รวมถึงกิจกรรมสนุกๆ อย่างการสอยดาว จับสลาก และแน่นอนว่าต้องมีขนมฝรั่งกุฎีจีนเป็นหนึ่งในพระเอกประจำงานด้วยเช่นกัน หมายเหตุ: ภาพและข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งของโครงการตำราอาหารย่านกะดีจีน-คลองสาน โดย มูลนิธิประชาคมย่านกะดีจีน-คลองสาน ไอคอนสยาม และศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC-CEUS)

ภาพย่านเก่าในโลกยุคใหม่ ผ่านสายตาของ ‘เฮียเสก’ เจ้าของตำรับขนมจีบต้มแห่งย่านกะดีจีน-คลองสาน

06/10/2020

            สำหรับคนยุคนี้คงเป็นเรื่องยากจะจินตนาการถึงการอยู่อาศัยในพื้นที่สักที่นานหลายสิบปี แต่ถ้าย้อนมองกลับไป จะพบว่าในสังคมเรายังมีคน ‘อยู่ติดที่’ ในความหมายว่าทั้งผูกพันกับสถานที่และมีวิถีชีวิตสอดคล้องกับตำแหน่งแห่งที่ที่พวกเขาใช้ชีวิตมาตั้งแต่เกิด คุณเสก หรือเฮียเสก-นัทธวัฒน์ กิตติวณิชพันธุ์ ของคนย่านกะดีจีนคือหนึ่งในนั้น ด้วยเขาเติบโตในครอบครัวชาวจีนเชื้อสายแต้จิ๋ว ในบ้านไม้หลังกะทัดรัดติดกับวัดกัลยาณ์ที่เปลี่ยนด้านล่างเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดรสเด็ด ครอบครัวที่ถ่ายทอดสูตรความอร่อยให้เขาจนกลายมาเป็นอาชีพทุกวันนี้             ปัจจุบันเฮียเสกเป็นเจ้าของกิจการ ‘ขนมจีบต้มเฮียเสก’ ขนมจีบต้มเจ้าแรกในประเทศไทย เนื่องจากสูตรที่ใช้นั้นเป็นสูตรประจำตระกูลของเขาเอง “จริงๆ มันเป็นสูตรที่ครอบครัวทำกินกันมานานแล้ว เป็นขนมจีบต้มเนื้อแน่นๆ ที่ไส้จะรสจัดจ้านหน่อย เป็นตำรับของชาวแต้จิ๋ว แต่เราก็เอามาปรับสูตรให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น พอทำกินกันในบ้านบ่อยเข้า ก็เริ่มอยากลองขาย สุดท้ายก็กลายเป็นกิจการครอบครัวมาจนวันนี้” และไม่ใช่เพียงกิจการธรรมดา แต่เรียกว่าเป็นกิจการหนึ่งที่เป็นหน้าเป็นตาของย่าน กะดีจีน-คลองสาน ก็ว่าได้ เพราะนอกจากขนมจีบต้มสูตรเฮียเสกจะโด่งดังขนาดต้องโทรสั่งจอง ขนมจีบต้มเจ้านี้ยังช่วยทำให้เรารู้จักย่านนี้ได้อย่างลึกซึ้งขึ้นด้วย             “เมื่อก่อนย่านนี้ของกินเยอะกว่านี้มาก ยิ่งในยุคที่ยังไม่ตัดถนนจะมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือมาขายกับข้าวกับปลาในคลองกันเต็มไปหมด บนทางเท้าก็มีคนหาบของขาย มีอาหารให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว” เขาย้อนความหลังให้เราฟังทั้งรอยยิ้ม ก่อนเล่าประสบการณ์สมัยวัยเด็กเมื่อครั้งยังอาศัยอยู่ในบ้านไม้ใกล้วัดกัลยาณ์ให้ฟังว่า ละแวกท่าน้ำหน้าวัดกัลยาณ์เป็นแหล่ง ‘มะม่วงอร่อย’ อย่างที่บางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน “สัก 40-50 ปีก่อน ถ้าใครอยากกินมะม่วงอร่อยต้องมาแถววัดกัลยาณ์ ช่วงฤดูมะม่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์จะมีเรือล่องมาจากดำเนินสะดวก จอดขายมะม่วงบริเวณปากคลองบางหลวงกันเป็นร้อยลำ เพราะเมื่อก่อนไม่มีตลาดผักผลไม้ใหญ่ เหมือนทุกวันนี้ เป็นอันรู้กันว่าใครอยากกินมะม่วงต้องมารอซื้อแถวหน้าวัดกัลยาณ์” เฮียเสกเล่าเรื่อยๆ ระหว่างชวนให้เราชิมขนมจีบต้มตำรับประจำบ้าน ก่อนเสริมถึงบรรยากาศของย่านในวันวานให้เราฟังอย่างออกรสไม่แพ้กัน […]

สภากาแฟกลางย่านกะดีจีน-คลองสาน ที่อยากสะท้อนภาพย่านเก่าผ่านพลังคนรุ่นใหม่ รูท-ฐานพงศ์ จิตปัญโญยศ

18/09/2020

            ภายใต้บรรยากาศขรึมขลังของย่านเก่าอย่างกะดีจีน-คลองสาน ด้วยตึกเก่าและวัดวาอารามอายุร่วมศตวรรษ ยังไม่นับคนเก่าคนแก่ที่แทรกตัวอาศัยอยู่ในย่านจนกลายเป็นเหมือนหนังสือประวัติศาสตร์มีชีวิต และก็ด้วยบรรยากาศเช่นนี้เอง ที่ทำให้หลายคนนึกไม่ถึงว่าจะมีพลังงานของคนรุ่นใหม่แทรกตัวสร้างความเปลี่ยนแปลงอันน่าสนใจให้ค่อยๆ เกิดขึ้นในละแวกนี้             ทว่ามุมเล็กๆ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใต้ร่มไม้ใหญ่ใกล้กับสำนักงานเขตคลองสาน ยังมีร้านกาแฟขนาดกะทัดรัดซ่อนตัวเปิดรอรับมิตรภาพอยู่อย่างกลมกลืน ‘Deep Root Cafe’ คือร้านดังกล่าว ชื่อซึ่งสะท้อนถึงตัวศิลปินหนุ่มผู้ก่อตั้ง รูท-ฐานพงศ์ จิตปัญโญยศ และหมายรวมถึงรากเหง้าของชาวธนบุรี ที่หยั่งลึกลงในย่านเก่าแห่งนี้มาแสนนาน (1)             บ่ายวันแดดร่มลมตก เราจึงถือโอกาสเข้ามาสัมผัสกับเรื่องราวของรูทพร้อมคำถามที่เก็บไว้ในใจ ว่าทำไมคนรุ่นใหม่วัยสามสิบต้นๆ จึงตัดสินใจพาตัวเองและครอบครัวย้ายมาลงหลักปักฐานในย่านกะดีจีน-คลองสาน มานานหลายปี แม้บางคนจะสะกิดเตือนเขาว่าบริเวณนี้อาจไม่ใช่ทำเลทองสำหรับทำธุรกิจสักเท่าไหร่ หากประเมินจากความง่ายในการสัญจร             “ถ้าถามว่าทำไม ก็ต้องบอกว่ามันเกิดจากความชอบตั้งแต่เด็ก เพราะเราเคยใช้ชีวิตอยู่ริมแม่น้ำ ก็จะมีภาพความประทับใจในวิถีชีวิต ในบรรยากาศอะไรต่างๆ ฝังอยู่ในใจ พอโตขึ้นและเริ่มมองหาบ้าน โจทย์แรกๆ ที่คิดคืออยากมีบ้านริมแม่น้ำ ที่บรรยากาศสงบเงียบพอให้เราได้พักผ่อน แต่ด้วยอาชีพที่ต้องเดินทางเข้าไปทำงานกลางเมืองทุกวัน โจทย์นี้เลยไม่ง่ายเท่าไหร่”             เขาเล่าเรื่อยๆ ระหว่างชงกาแฟแก้วแรกของวันส่งให้เราจิบ ก่อนขยายความว่าในระยะแรกของการมองหาบ้านนั้น ย่านเก่าของกรุงเทพฯคือบริเวณแรกๆ ที่เขาหมายตา ด้วยช่วงชีวิตหนึ่งเคยใช้เวลาอยู่ในย่านการค้าอย่างเยาวราช และเกิดความรักในบรรยากาศแบบ ‘คนบ้านใกล้เรือนเคียง’ มาจนวันนี้             “เราว่าบรรยากาศของย่านเก่ามันเป็นเสน่ห์ที่เกิดจากความจริง […]